วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ภษคส : 7 B, let’s get drunk *grin*.



7
B, let’s get drunk *grin*.



หลายวันถัดมา

                วันนี้เป็นวันชูซอกครับและเป็นวันหยุดราชการ ผมกับชุนเลยคิดว่าจะไปเยี่ยมหลุมศพป๊ามันแล้วก็ไปนอนค้างคืนที่บ้านผม

                ความจริงผมก็ยังติดต่อกับพ่อแม่ตัวเองอยู่ตลอดนะ -_-; แต่แม่ผมไม่ส่งเงินมาให้ซักวอนเดียวตั้งแต่ที่ผมแยกจากชุนมา (ทำไมทำกับลูกแบบเน้ T^T)
                


                “บุ๊ค ทำไมไม่ใส่สเวตเตอร์ บอกว่าช่วงนี้อากาศเย็น นี่ก็ดื้อตลอด เดี๋ยวเป็นหวัดอีกหรอก” เสียงชุนบ่นยาวๆ ปลุกผมจากภวังค์ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าผมลืมสเวตเตอร์ไว้ในห้อง 

                “ไม่ได้ดื้อแต่ลืมวุ้ย แป๊บนึง” ผมวิ่งเข้าไปในห้องก่อนจะคว้าสเวตเตอร์มาสวมแล้ววิ่งออกมา ชุนเป็นคนถือกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดและผมก็ห้ามถืออีกตามเคย
                

                ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ พวกเราก็ขับรถเข้าสู่เขตชนบท ตึกระฟ้าสูงๆ ค่อยๆ หายไปทีละน้อยและแปรเปลี่ยนเป็นผืนหญ้าสีเขียวๆ แทน บรรยากาศนับว่าค่อนข้างสดชื่นมากจนทำให้ชุนปิดแอร์และเปิดกระจกรถ

                เราขับรถขึ้นไปบนภูเขาสูงซึ่งเป็นที่ฝังศพของ ปาร์คชานโฮหรือพ่อของชุนมันนั่นแหละ

                ชุนหยิบโซจูสองขวดกับช่อดอกลิลลี่สีขาวมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินนำไปที่หลุมฝังศพ


                “ป๊าหวัดเด” ไอ่ห่าชุนทักทายพ่อตัวเองได้กวนประสาทมาก

                “ป๊าชุนหวัดเด” และผมก็กวนประสาทเช่นกัน 5555555555555

                “ป๊า... ยังไม่เป็นนะ” ชุนมักจะพูดประโยคนี้เสมอเวลามาเยี่ยมหลุมศพป๊า ผมก็ไม่เข้าใจรูปประโยคเท่าไหร่อ่ะ -_-; ยังไม่เป็นห่าไรของแม่งไม่รู้อ่ะ เป็นเอดส์? เป็นมหาเศรษฐี? ไม่รู้สิ...

                แปลกๆ เนอะ

                “ป๊า” ผมขัด “ชุนมันตีบุ๊คด้วยแหละ ตั้งสองที บุ๊คแค่พาเพื่อนที่เมาไปส่งบ้านเอง บุ๊คไม่ได้กินเหล้าด้วยนะป๊า ทำไมมันทำอย่างงี้อ่ะ”

                “ป๊า แต่ผมก็ทายาหม่องที่ตูดมันแล้วนะ โอ๋มันด้วย ลูบตูดมันด้วย”

                “ไอ่สัส มึงไม่ต้องเล่าขั้นตอนนั้นให้ป๊าฟังก็ได้ กูอาย - / / -” ผมตีหลังมันทีนึงก่อนจะเปิดขวดโซจูให้ “ป๊าอย่ากินจนเมานะเห้ย เดี๋ยวจีบนางฟ้าไม่ติด นางฟ้าไม่ชอบคนขี้เมา”

                “สัส ป๊ากูจะไปจีบคนอื่นทำไมห้ะ ป๊ากูก็ไปอยู่กับม๊ากูเด้” เออ ลืมไปว่าแม่มันเสียไปตั้งแต่มันเด็กๆ แต่มันก็ไม่เคยไปเยี่ยมแม่มันเลยนะ 5555555555 เห็นบอกว่าแม่ไม่รัก (แหม แล้วพ่อรักมึงตายล่ะ เห็นทะเลาะกันจนหนีออกจากบ้านเลยนี่ครับ ดอกครับ)

                “เออเอาน่ะ แต่ป๊า... บุ๊คอยากแต่งงานกับชุน แล้วชุนมันเสือกไม่ยอมแต่งกับบุ๊คอ่ะ ป๊าตีมันให้หน่อยเด่ะ” ผมพูดต่อ และดูเหมือนว่าชุนจะเริ่มขี้เกียจโกรธเวลาผมพูดเรื่องนี้แล้ว มันเลยกวนตีนใส่

                “ก็บุ๊คมันไม่ชอบผมซักทีอ่ะป๊า เนี่ย ถ้ามันชอบผมเมื่อไหร่ผมก็จะแต่งงานกับมันทันทีเลย ป๊าก็รู้อยู่เนอะ” ไอ่เหี้ยอะไรอีก ป๊ามึงรู้อะไรอีก

                “เออน่ะ ใกล้จะชอบละ อย่าพึ่งมาขัดขวางละกันไอ่ห่า” ผมพูดปัดก่อนจะหยิบโซจูที่วางให้ป๊ามันมากรึ๊บหนึ่งอึก

                “บุ๊ค มึงอยากโดนกูตีตรงนี้ใช่มะ แย่งป๊ากูแดกกูไม่ว่าเลยนะ แต่กูไม่ให้มึงแดกเหล้านะบุ๊ค จำไม่ได้หรือไม่คิดจะจำ?” โดนมันด่าตลอด ตลอดอ่ะกู แต่ยิ่งโดนด่ายิ่งสบายใจ 555555555555

                “จำไม่ได้! แหม... กูแดกนิดๆ หน่อยๆ แถมอยู่ในสายตามึงนะเว่ย กูไม่ไปเมาอ้อนใครหรอกหน่า” ผมตอบอย่างหมั่นไส้ ชุนเคยบอกผมว่าถ้าผมกินเหล้าจนเมามาก ผมจะอ้อนคนเค้าไปทั่ว (จริงหรอ T^T)

                “เออๆๆ ไปละนะป๊า ไว้เปลี่ยนสถานะแล้วจะพามาใหม่” ประโยคบอกลาป๊ามันคือประโยคนี้ทู้กที และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม TT___TT

                แปลกๆ เนอะ

                แต่เอาเถอะ เรื่องของมัน เราอย่าไปเสือก




                พวกเราขับรถกลับมาที่โซลอีกรอบ เพราะบ้านพ่อแม่ผมอยู่ที่โซลไง และถึงแม้ว่าจะมาหาพ่อแม่ผมแค่วันหยุดนักขัตฤกษ์ ชุนก็ยังคงจำทางได้เสมอ 

                เหย แต่กูก็จำทางไปหลุมศพป๊ามันได้นะเว้ย -^-


                “แม่แจ๋~~~” ผมทำตัวเสียงดังก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ชุนที่ถือข้าวของพะรุงพะรังก็เดินตามมาติดๆ

                “ว้ายยยยยยยย บุ๊คกับลูกเขยยยย” และแม่ผมก็จะทักพวกผมแบบนี้ประจำ ความจริงคนพวกนี้ก็เป็นคนตั้งชื่อชานยอลกับแบคฮยอนนะ แต่พ่อแม่พวกเราก็เรียกเราว่าบุ๊คกับชุนตามพวกเราไปแล้วล่ะ T_T 

                “อะไรคุณ ชุนมันมาด้วยรึไง” เสียงพ่อผมดังขึ้นจากหลังบ้านก่อนจะเดินเข้ามาหา

                “ช่ายยยยย~ แหม ยิ่งโตยิ่งหล่ออ่ะคนเนี้ย บุ๊คไม่คิดจะเอาชุนเป็นแฟนบ้างหรอลูกกกกก” แม่ผมถามอารมณ์ดี นี่นางจะอารมณ์ดีเกินไปละ

                “คุณนี่ก็ชอบให้สองคนนี้เป็นแฟนกันตลอด เด็กมันจะทำอะไรก็เรื่องของมันเถอะหน่า” พ่อผมมักจะขัดใจแม่อย่างงี้ประจำ แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนับสนุนนะ คนนี้อ่ะตัวดีเลย -_-^

                “หวัดดีครับพ่อบุ๊ค แม่บุ๊ค” มันโค้งสวัสดีสวยงามก่อนจะเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บข้างบน แม่ผมมักจะทำความสะอาดห้องนอนผมอยู่เสมอ เวลาพวกผมมาทีไรก็นอนได้เลย

                “นี่! เมื่อไหร่จะเอาชุนเป็นแฟนซักทีล่ะบุ๊คคคค แม่รอจนจะแก่ตายแล้วนะ” แม่ผมเข้ามากระซิบ 

                “ก็จะแต่งงานหนีภาษีกับมันเนี่ย แต่มันไม่ยอมแต่งกับหนูอ่ะแม่” ผมบอกพลางเบะปากงอน

                “เอ้า! แต่งงานหนีภาษีใครเค้าจะไปแต่งด้วยล่ะ ต้องแต่งจากใจ ต้องรักชุน ชุนเค้าถึงจะยอมแต่ง”

                “ก็จะรักมันหลายรอบแล้วเนี่ย! โดนด่าตลอด” ผมตอบก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดไปหาพ่อ “วันนี้หนูอยากกินเหล้าอ่ะ ให้หนูกินนะพ่อนะ”

                “ถามไอ่ชุนนู่น” พ่อโบ้ยไปทางไอ่ห่าชุนที่กำลังลงมาจากชั้นสอง


                นี่ใครเป็นพ่อกูกันแน่ห้ะ =___=


                “พ่อ พี่จุนกลับบ้านปะวันนี้” ผมหันไปถาม พ่อผมพยักเพยิดไปที่ห้องครัวเหมือนว่าพี่จุนอยู่ในนั้น


                พี่จุนคือพี่ชายของผมเอง ชื่อเต็มคือจุนมยอน... เอาจริงๆ ก็คือตอนแรกมันชื่อ แจ-มยอนและก็คล้องกับ แบคฮยอนอยู่ดีๆ หรอก แต่พอเห็นผมชื่อบุ๊ค พี่แกเลยอยากชื่อเป็นสระอุบ้าง

                เลยขอแม่ไปเปลี่ยนชื่อเป็นจุนมยอน (ตอนแรกจะชื่อจุ-มยอนแล้วนะ แต่แม่บอกว่าทุเรศ)



                “เพ่จุนนนนน~~~~~” ผมเดินเข้าไปในครัวก่อนจะเห็นพี่ชายที่อายุห่างกันสี่ปียืนหั่นอะไรบางอย่าง พี่แกเป็นพี่ที่ใจดี น่ารักและผมก็รักพี่มากด้วย ผมว่าพี่จุนอาจจะเป็นคนเดียวในโลกใบนี้ที่ไม่รู้จักคำหยาบใดๆ เลยก็ได้ -0-; 

                “อ้าว บุ๊ค มาแล้วหรอ พี่ซื้อโซจูมาเต็มเลย บุ๊คเอาไปกินที่คอนโดด้วยนะ เผื่อโด้เผื่อชุนมัน” พี่จุนหันมาบอกก่อนจะเริ่มผัดกับข้าว

                “วันนี้ชุนก็มานะ ทำกับข้าวเยอะๆ ด้วย อิห่านี่แดกเยอะ”

                “อ่าวหรอ แล้วเป็นแฟนกันรึยังล่ะ ฮ่าๆๆๆ” พี่จุนแกถามอย่างงี้มาตั้งแต่ผมเปลี่ยนชื่อเป็นบุ๊คละ (ว่าง่ายๆ คือป.หนึ่งอ่ะแหละ 55555555)

                “ยัง! พี่รีบทำกับข้าวเลยนะ บุ๊ครอกินอยู่ แบร่ๆ” ผมแลบลิ้นก่อนจะเดินออกมา ผมว่าที่ผมทำกับข้าวไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียวคงเป็นเพราะพี่จุนทำให้กินตลอดเวลาแน่ๆ

                “พี่ก็รอให้บุ๊คกับชุนเป็นแฟนกันอยู่น้า~


                กูไม่เคยด่าพี่จุนมาก่อนเลยนะ แต่กูคงจะด่าพี่แก (ในใจ) ก็วันนี้แหละ =__=



 **********



หลังมื้อเย็น

                “แง่มๆ หัวชุนอร่อย~” เจ้าตัวเล็กจับหัวเพื่อนตัวสูงไว้ก่อนจะกินเส้นผมเหมือนเป็นเส้นทาโร่ ร่างสูงหัวเราะร่าก่อนจะหันไปหาแบคฮยอนอย่างใจดี

                “ฮ่าๆๆๆ ไม่เอานะบุ๊ค อย่ากินหัวกู” ชานยอลเอามือดันปากแบคฮยอนออกจากหัวตัวเอง นี่พึ่งสระผมมาเมื่อเช้า คงต้องไปสระอีกรอบแล้วเนี่ย

                “จะกิน!” แบคฮยอนเบะปากก่อนจะหันไปบอกพ่อตัวเอง “พ่อดูมันเด่ะ มันไม่ให้หนูกินหัวมันอ่ะ!

                “บุ๊คเมาแล้วนะลูก” คนเป็นพ่อชักจะรำคาญ พอลูกชายตัวเองเมาทีไรแม่งเป็นห่าไรไม่รู้ นี่ขนาดให้กินโซจูแค่สามแก้วเป็นการฉลองวันชูซอก ทำไปทำมาแม่งเมาก่อนใครเพื่อน 

                “ยังไม่เมา! ไม่เชื่อให้หนูทำแบบทดสอบของไอ่ห่านี่เด่ะ~ ชุนนนน มึงถามกูมาเล้ยยย~ กูตอบได้โหมดดด” แบคฮยอนหันไปตีหัวชานยอลก่อนจะนั่งตาแป๋วรอรับแบบทดสอบ ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะถามขึ้น

                “1 + 1?”

            “จ๋อง!

            “2 + 2?”

            “ฉี่~~~~~~ คนตัวเล็กพูดพลางทำท่ายืนฉี่ให้ดู 

                “นี่ไม่เมาหรอชุน -_-?” จุนมยอนหันมาถามว่าที่น้องเขยด้วยสีหน้าเพลียจิต

                “ไม่เมาครับไม่เมา ถ้ายังตอบเป็นเลขได้อยู่แปลว่าเมาไม่มาก ยังมีสติอยู่ครับ ฮ่าๆๆๆ” ชานยอลหัวเราะก่อนจะลุกขึ้น ยื่นมือไปให้คนตัวเล็กจับ “ขึ้นห้องได้แล้วนะ ไปนอนกัน”

                “ม่ายอาว~ อยากคุยเรื่องตลาดหุ้นปีที่แล้วกับพ่อก่อน”

                “หัวข้อในวงเหล้ามึงจริงจังเกินไปเว่ยแบค พ่อไม่อยากฟังหรอกใช่มั้ยครับ?” ชานยอลหันไปถามชายวัยกลางคนที่ตอนนี้รีบส่ายหน้ารัวๆ “เห็นมะ พ่อไม่อยากฟังมึงแล่ว ขึ้นนอน”

                “แล้วชุนนอนด้วยป่าว ถ้าชุนไม่นอนกูไม่นอนนะ!!” 

                “จะตะโกนทำไม อายแม่อายพ่ออายพี่จุนมั้ยเนี่ย -_-^ เดี๋ยวกูตามไปนอน แต่ขอลงมาคุยอีกครึ่งชั่วโ...”

                “ให้ได้แค่ห้านาทีเท่านั้นแหละ!!” แบคฮยอนขัดก่อนจะยอมเดินไปที่ห้องนอนตัวเอง ร่างเล็กจับท่อนแขนของชานยอลไว้เหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยว...


                นี่ถ้าพ่อแม่และพี่จุนไม่อยู่ กูอุ้มพาดบ่าแล้วจับตีตูดละสัส

                *กระแอมหล่อๆ* กูต้องเป็นลูกเขยและน้องเขยที่ดีสิๆๆ


                “นอนก่อนนะ” ชานยอลห่มผ้าให้คนตัวเล็กที่ขึ้นไปขดตัวอยู่บนเตียง แต่มือเล็กก็เอื้อมมาจับไว้

                “นอนก่อนไม่ได้หรอก ก็รู้นี่นา...” เสียงเล็กอู้อี้อยู่ในลำคอจนคนตัวสูงหัวเราะ

                “ฮ่าๆ รู้แล้ว... เดี๋ยวมานะ ขอสิบนาที”

                “อื้อ จะถ่างตารอ คิกๆ” คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักในลำคอก่อนจะเอานิ้วมาถ่างตาให้โตขึ้น ชานยอลยิ้มก่อนจะลงมานั่งข้างๆ เตียง

                “มึงยังทำแบบทดสอบไม่จบเลยนะ” 

                “ช่ายๆ ยังมีอีกสองข้อยังไม่ได้ตอบ” แบคฮยอนนึกขึ้นได้ก่อนจะหันมามองคนตัวสูง ตาที่ฉ่ำวาวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เรียกให้คนตัวสูงเผลอใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มือหนาเอื้อมไปจับมือเล็กที่เย็นเฉียบก่อนจะพูดแบบทดสอบการเมาต่อ

                “ชุน + บุ๊ค?”

            BEST FRIEND FOREVER!!! คำตอบนี้มักจะเป็นคำตอบตอนที่บุ๊คไม่เมามากเท่าไหร่...

            “จงอิน + คยองซู?”

                NOTHING!!!... เป็นไง กูตอบถูกทุกข้อเบยยย~” คนตัวเล็กตอบฉะฉานก่อนจะยิ้มโชว์รอยบุ๋มที่ใต้ตาทั้งสองข้าง “มานอนไวๆ นะ >__<

                “อื้ม” ชานยอลยิ้มตอบก่อนจะเดินออกจากห้องนอน มือขวายกขึ้นมากุมที่อกข้างซ้ายตัวเอง ก็มันเต้นแรงเกินไป... แรงเกินกว่าหัวใจมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะเต้นได้

                “มาๆๆๆ ลงมาๆๆ” เสียงแม่แบคฮยอนร้องเรียกจากด้านล่าง ชานยอลจึงรีบซอยเท้าวิ่งลงบันไดไปหาทันที

                “เฮ้ออออออ” เมื่อถึงวงเหล้าเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รอยยิ้มฝืนปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา

                “เอาหน่าๆ จีบมันอีกซักยี่สิบปีก็ไม่สายหรอกนะลูกเขยนะ” หญิงวัยกลางคนยกแก้วโซจูขึ้นมาซด ก่อนจะพูดปลอบใจลูกเขยอย่างเต็มที่

                “ชุน แกยังจีบบุ๊ครึเปล่าเนี่ย” พี่จุนมยอนเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ

                “ยังจีบนะพี่ ผมทำเหมือนเดิมมาตลอด ยกให้บุ๊คเป็นคนพิเศษ แต่เหมือนบุ๊คจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนสนิทเค้าทำกัน” ผู้ที่อ่อนอายุและประสบการณ์ที่สุดในวงเหล้าพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า

                “นั่นไง!” แม่แบคฮยอนเอามือทุบโต๊ะดังปัง “นั่นแหละ... อันนั้นแหละ”

                “อะไรของคุณ -_-?” พ่อแบคฮยอนหันไปถามก่อนจะนึกขึ้นได้บ้าง “เออใช่! O_O ใช่ๆๆๆ”

                “อะไรหรอครับ TT___TT

                “สิ่งพิเศษๆ ที่เราอุตส่าห์ทำให้... กลายเป็นของธรรมดาในสายตามัน เราก็ต้องปฏิบัติกับมันแบบธรรมดาๆ บ้าง มันจะได้สำนึก” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คนตัวสูงเบิกตาโพลงอย่างตกใจ... ใช่ เขาไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลย

                “ผมต้องทำยังไงครับพ่อ?”

                “เมินแม่ง ปล่อยแม่งเฉาตายไป เอาให้มันนอนร้องไห้เลย”

                “ใช่เลยยชุน” จุนมยอนเสริม “ให้บุ๊คอยู่ด้วยตัวเองบ้าง แล้วบุ๊คก็จะนึกถึงชุน... ทีนี้แหละ บุ๊คก็จะรู้ตัวเองซักทีว่ามีคนที่อยู่ดูแลตัวเองมานานแค่ไหน”

                “ผมจะทำได้มั้ยเนี่ย...” ชานยอลก้มหน้านิ่ง เขาดูแลเพื่อนคนนี้มาแทบทั้งชีวิต... แล้วจู่ๆ จะให้มาเลิกดูแลกันคงทำได้ยาก

                “ทำไม่ได้ก็ต้องทำล่ะ โง่ๆ บื้อๆ อย่างนั้นจะไปรู้เรื่องอะไร” แม่แบคฮยอนสนับสนุนเต็มที่ คนตัวสูงพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน

                “ได้ครับ! งั้นผมจะทำเดี๋ยวนี้ ผมไปนอนก่อนนะครับ”

                “เดี๊ยวๆๆๆ นอนแยกห้องด้วย ให้มันนอนคนเดียว” ชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาชี้ไปที่ห้องจุนมยอนเหมือนจะให้จุนมยอนไปนอนกับแบคฮยอนแทน บอกเลยว่าแอบลังเล... เพราะถ้าเขาขาดแบคฮยอนก็นอนไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ


                เอาไงดี

                ...

                อืม คืนนี้ลองแยกกันนอนดูซักทีนะบุ๊ค
                


**********



                *เบะปาก*


                “ไม่เอาหน่า อย่าไปโกรธชุนกับพี่จุนเค้าสิลูก พี่จุนเค้าอยากนอนกับหนูบ้างนี่ผิดตรงไหน” แม่แบคฮยอนพูดเกลี้ยกล่อม เพราะลูกชายคนเล็กของบ้านนั่งกอดเบะปากตั้งแต่ตื่นนอน

                “แล้วทำไมชุนต้องนอนแยกด้วย” เสียงเล็กกระฟัดกระเฟียดถาม

                “เอ้า... ก็เตียงหนูมันนอนไม่พอ จะให้ชุนลงไปนอนด้วยได้ยังไงลูก” หญิงวัยกลางคนเอามือลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นี่อายุอานามก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าละ ยังจะงอนเป็นเด็ก

                “ผมขอโทษครับ ผมเลี้ยงบุ๊คแบบตามใจเกินไปหน่อย” ชานยอลพูดพลางโค้งก้มหัวให้ผู้มีอาวุโสทั้งสาม ทำให้คนที่กำลังงอนยิ่งงอนเข้าใหญ่

                “ก็มึงเลี้ยงให้กูนอนกับมึงมาตลอดนี่หว่า! แล้ววันนี้อะไร!? กูลืมตาตื่นมาเป็นพี่จุนนี่คิดว่ากูตกใจมากมะ?” แบคฮยอนตะโกนโวยวาย ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามได้แต่ก้มหน้า... 


                แหม ใครมันจะไปคิดว่าจะโกรธจัดขนาดนี้ แถมยังลงมานั่งอยู่ข้างล่างคนเดียวตั้งแต่ตีสาม เพราะเผลอลืมตาตื่นมาเจอว่าพี่จุนนอนอยู่ข้างๆ


                ไม่มีชุนใครมันจะไปนอนด๊าย~


                “อย่าอย่างงี้นะบุ๊ค งอนกูได้แต่อย่างอนพ่อแม่กับพี่จุน” เสียงของชานยอลดุขึ้นมาทันที ทำเอาผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามแอบหัวเราะในใจที่เห็นเด็กน้อยแบคฮยอนเหลือตัวเท่ามด

                “กลับคอนโดแล่ว! บายนะพ่อแม่พี่จุน บายๆๆๆ” แบคฮยอนลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ ก่อนจะถือกระเป๋าเดินทางเอง ชานยอลวิ่งเข้าไปจะช่วยถือก็สะบัดไม่ให้ถืออีกต่างหาก

                “พี่เอาโซจูใส่ไว้ในรถแล้วนะชุน คืนนี้มอมเลย” เสียงพี่จุนกระซิบแผนร้าย ก่อนจะตบบ่าให้กำลังใจ ร่างสูงโค้งลาพ่อแม่และพี่จุนพลางวิ่งไปที่รถ

               
                เอาวะ มอมก็มอม!!!!



**********



                เมื่อกลับไปถึงที่คอนโด คนตัวเล็กที่ไม่พูดอะไรมาตลอดทางก็เดินปึงปังเข้าไปในนั่งบนโซฟาก่อนจะซุกตัวลงนอน เป็นเพราะเพลียจากการนั่งตาแข็งมาตั้งแต่ตีสามแท้ๆ เลย...

                ร่างสูงไม่ได้พูดอะไร เขาพอจะรู้ว่าคนตัวเล็กอยากพักผ่อน จึงเดินไปที่ห้องฝั่งตรงข้าม... โดคยองซู


                “มึงมามอมเหล้าบุ๊คให้หน่อยดิ” 

                “อะไรอีกล่ะ -_-; อยากได้ยินมันบอกรักรึไง? ฮ่าๆ” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกสุดๆ 

                “นิดนึง... แต่พี่จุนกำชับมาว่าให้กูมอมมัน กูก็ต้องทำตามคำสั่งพี่เขยไง” ชานยอลพยายามเอาคนอื่นมาอ้าง 

                “แล้วทำไมไม่มอมเอง”

                “มันโกรธกูอยู่ โกรธมาก... เมื่อคืนกูไม่ได้นอนกับมัน มันตื่นมารู้ว่าเป็นพี่จุนนี่ไม่ยอมนอนต่อเลยนะ” ชานยอลอธิบายช้าๆ ความจริงเขาก็ง่วงอยู่นิดหน่อยเพราะเมื่อคืนหลับๆ ตื่นๆ เหมือนกัน

                “อ่อ... อย่างงี้ค่อยน่าสนุกหน่อย” คยองซูยิ้มแสยะ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของทั้งสองคน 

                “อ้าวโด้ มาทำไม” แบคฮยอนที่ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาก็ลุกขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ใช่ไอ่บ้าตัวยักษ์ก็ยอมพูดด้วย

                “หิวโซจูง่ะ เห็นชานยอลบอกว่าพี่จุนให้มาเยอะเลยนิ” คยองซูเดินไปที่ขวดโซจูสิบกว่าขวดที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะหยิบมาสามขวด

                “กูไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากเมาละ” แบคฮยอนปฏิเสธ แต่คยองซูก็รั้งไว้

                “นะๆ T^T กินเป็นเพื่อนหน่อย นิดเดียวเอง...”



                นิดเดียวเอง...

                นิดเดียวเอง...


                .
                .

                “มันกินคนเดียวไปสามขวดอ่ะ รับผิดชอบละกัน อ้วกแตกขึ้นมากูไม่รู้ด้วยนะ บายล่ะบาย” คยองซูที่ยัดให้เพื่อนกินไปคนเดียวสามขวด ส่วนตัวเองกินแค่จิบๆ ก็รีบออกมาจากห้อง ชานยอลที่นั่งรออยู่ในห้องคยองซูตั้งชั่วโมงนึงจึงเดินกลับไปที่ห้องตัวเองได้ซักที


                ร่างสูงสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อไล่ความตื่นเต้น... จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง บุ๊คเมาทีไรเปลี่ยนเป็นคนละคนทุกที

                ทั้งน่ารัก... น่าฟัด... น่าหยิก... น่าได้... น่าเอา...


                ไม่ต้องมาหาว่าหื่นเลยนะ!
               
                คอยดูแล้วกัน... เจอแบบนั้นใครไม่หื่นก็ตายด้านละครับ -.,-


                “เฮลโหลว...” เขาส่งเสียงเข้าไปก่อน พลางเดินช้าๆ เพื่อสำรวจว่าคนตัวเล็กอยู่ในอาการไหน


                “ชุน~~~~~~~~~ น้ำเสียงที่ร่าเริงผิดปกติทำให้ร่างสูงใจชื้น มันคงเมาเต็มที่แล้วจริงๆ...


                ภาพที่เห็นคือแบคฮยอนใส่เสื้อกีฬาตัวใหญ่โคร่งของเขาจนคอเสื้อหล่นมาตกอยู่ที่ไหล่เนียนขาว ชานยอลเผลอซี๊ดปากนิดหน่อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาหื่นกามสำรวจด้านล่าง... ขาขาวเนียน (ที่มีขนหน้าแข้งเล็กน้อย) ถลกเปิดซะจนจะเห็นไปถึงแก้มก้นละ ด้านในไม่รู้ว่าใส่บ็อกเซอร์ไว้รึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ไม่เห็นว่าใส่อะไรอยู่...

                ไอ่เหี้ย... เห็นมันเดินแก้ผ้าไปมาก็บ่อย แต่ทำไมช็อทนี้มันบั่บ... มันบั่บ...


                “อ้อชานยอล!” คยองซูเปิดประตูเข้ามาในห้อง “กูเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มันด้วย เอ็กซ์แตกดีมั้ยมึง เออ... จะได้ได้กันซักที กูรำคาญเต็มทนละ”


                สัสโด้แม่ง

                ทำอะไรปรึกษากูก่อนมั้ย

                ถึงกูจะอยากได้มัน แต่กูไม่ข่มขืนมันตอนเมาเว่ยยยยยยย O / / O!! (แล้วทำไมต้องหน้าแดง...)



                “ไหน... บุ๊คทำอะไรอยู่เอ่ย” เขาเดินเข้าไปนั่งข้างๆ จนร่างกายเบียดแนบชิดก่อนจะพูดจาหวานหู...


                มันเป็นคำพูดและกิริยาที่อยากจะทำกับบุ๊คมานานแล้ว

                แต่ก็ทำได้แค่ตอนบุ๊คเมาไม่รู้เรื่องเท่านั้น...


                “บุ๊คว่าง~~~ ชุนมาเล่นกับบุ๊คมั้ยๆๆ” คนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำพูดจาน่ารัก ก่อนจะจับแขนแกร่งไว้แล้วเอาหน้าซุกลงไป “คิดถึงชุนมากเลย~~ ชุนหายไปไหนมาง่ะ”

                “ชุนไปนั่งรอบุ๊คเมาที่ห้องโด้มาน่ะ” เขาตอบไปตรงๆ 

                “หู่ยยยยยยยยย~~ คราวหลังก็มากินด้วยกันจิ นะๆ” นอกจากจะทำเสียงอ้อนไม่พอ... ยังเอาแก้มถูแขนเขาซะจนขนลุก โอยยยยย... เขินนะๆๆๆๆ - / / / / / -

                “ทำแบบทดสอบการเมาก่อนนะบุ๊ค” ชานยอลพยายามทำเสียงให้จริงจังก่อนจะดันหน้าคนตัวเล็กให้ออกห่างจากแขนตัวเอง ปรากฏว่าคนตัวเล็กงับนิ้วเขาไว้ก่อนจะจ้องเหมือนหมาพันธุ์ปอมมีเรเนียนกำลังโมโห...


                แล้วปอมมีเรเนียนดุมันจะไปดุยังง๊ายยยยยยย T / / / / T

                มันก็น่ารักเด่ะ!!!!!


                ไม่เชื่อมึงดูรูป!! 




                “1 + 1?” เขาพยายามกัดฟันสะกดกลั้นอารมณ์ ทำตัวจริงจังไว้ก่อน

            “แปดล้าน”

            “2 + 2?”

            “สิงโตทะเล งั่มๆ” ตอบเสร็จก็งับนิ้วเขาอีกรอบ

            “ชุน + บุ๊ค?”
                

                ...


                “ซารัง”


                และนี่... คือคำตอบเดิมๆ ที่เขาได้ยินทุกครั้งที่แบคฮยอนเมาจนไม่รู้เรื่อง...

                ทำไมมึงต้องตอบคำนี้วะบุ๊ค มึงคิดอะไรกับกูรึไง...


                ถ้าใช่ก็บอกกูที... บอกให้กูรู้ซักที


                “จงอิน + คยองซู?”

                “ผัวเมียตัดไม่ขาด” ร่างเล็กตอบพลางหัวเราะคิกคักในลำคอ และนี่ก็เป็นคำตอบอีกคำตอบหนึ่งที่แบคฮยอนจะตอบเวลาเมาเอ๋อแบบนี้

                “อ่า~ แสดงว่าเมาจริง” ชานยอลอยากจะยิ้มให้กว้างถึงรูหู แต่เขาก็ต้องกลั้นยิ้มไว้เพราะมันเขินมาก คนตัวเล็กข้างๆ ก็อ่อยด้วยไหล่เนียนๆ นั่นอีก แม่มเอ๊ย เอาไงกับชีวิตกูวะ

                “ชุนๆๆ~~ บุ๊คง่วงง่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย งื๊ออออ” แบคฮยอนดิ้นนิดหน่อยเพราะเซ็งที่เมื่อคืนไม่ได้นอน ชานยอลเอื้อมมือไปขยี้หัวเล็กก่อนจะหันไปพูดยิ้มๆ

                “งั้นเดี๋ยวพาไปนอนนะ”

                “นี่เที่ยงคืนแล้วใช่ป่าว ทำไมยังสว่างอยู่เลยง่ะ... อุกกาบาตตกหรอ...” แบคฮยอนหันออกไปมองนอกหน้าต่าง แดดจ้าขนาดนั้นเที่ยงคืนบ้านพ่อมึงหรอแบคฮยอน

                “เที่ยงวันน่ะ -_-; แต่นอนได้ นอนยาวไปเลยนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นละกัน” 

                “ก็ได้ งั้นนอนก่อนนะ ชุนนอนด้วยนะ ''” แบคฮยอนส่งสายตาอ้อนวอนจนร่างสูงถอนหายใจ 

                “เฮ้อ ให้นอนตอนนี้ชุนนอนไม่หลับหรอก แต่เดี๋ยวอุ้มไปส่งที่เตียงนะ ดีมะ” ชานยอลยิ้มกรุ้มกริ่ม ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะอุ้มหรอก ตัวหนักชิบหาย แต่จะโทษใครได้... ก็เขาเนี่ยแหละเป็นคนขุนมันให้อวบอั๋นเอง


                บังเอิญวันนี้แบคฮยอนมันน่ารัก+มุ้งมิ้ง+เซ็กซี่+เอ็กซ์แตก

                ยอมอุ้มดูหน่อยจะเป็นไร๊~


                “ต้องอุ้มด้วยอ่อ...” แบคฮยอนก้มหน้าพูดเหมือนเขินอะไรบางอย่าง แก้มใสที่แดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก

                “อุ้มดิ บุ๊คจะได้ไม่ต้องเดินไง สบายดีออก”

                “แต่บุ๊คตัวหนักนะ... ชุนจะปวดแขน ปวดไหล่ ไม่เอาง่ะ” 

                “ไม่ปวดหรอกหน่า มาเร็ว มาให้ชุนอุ้มนะ” คนตัวสูงกระซิบข้างหูก่อนจะช้อนคนตัวเล็กขึ้นในอ้อมแขน


                ขอถอนคำพูดที่เรียกมันว่า คนตัวเล็กมาตลอด =_______=

                อิเหี้ย ถ้าแม่งสร่างเมาเมื่อไหร่กูจะสั่งงดช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปและทองหยิบทองหยอด


                “หนักใช่มั้ยง่ะ T__T บุ๊คขอโทษ บุ๊คอ้วน อย่าเกลียดบุ๊คนะ” เสียงเล็กพูดอู้อี้พลางเอาหน้าซุกลงที่ไหล่กว้าง 

                “เออหนัก แต่ทนได้ รักไปแล้วนี่หว่า... จะให้เกลียดยังไงวะ -_-;” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ 

                “งั้นห้ามเกลียดบุ๊คนะ ถ้าชุนไม่รักบุ๊ค... บุ๊คอยู่ไม่ได้หรอก” 


                “... แล้วทีบุ๊คไม่รักชุน”

                “...”

                “ชุนยังอยู่ได้เลย”


                น้ำเสียงที่พูดดูขาดห้วงและเจ็บปวด หัวใจภายในบีบรัดจนเหนื่อยล้ามาตลอดสิบยี่สิบปี... เขาค่อยๆ วางคนตัวเล็กลงบนเตียงหนาก่อนจะห่มผ้าให้ แขนซ้ายประจำที่เดิม... และคนตัวเล็กก็เข้ามาซุกที่หน้าอกเขาเหมือนเดิม...


                “บุ๊ครักชุนนะ แต่ชุนไม่รู้หรอก... ชุนไม่เคยรู้” แบคฮยอนเถียงขึ้นมา ดวงตาเรียวเล็กยังคงปิดสนิท

                “...”


                “บุ๊คแค่กลัว...”


                “กลัวอะไร?” ร่างสูงถามขึ้นอย่างร้อนรน ประโยคที่พูดมาเมื่อกี้เหมือนมันมาจาก... จิตใต้สำนึก
                

                แต่เมื่อก้มมองก็เห็นแบคฮยอนหลับปุ๋ยไปซะแล้ว...


                เขาถอนหายใจอย่างเชื่องช้าและหนักหน่วงเหมือนก้อนหินกดทับ คำพูดที่ค้างคาเมื่อกี้ทำให้เขาข้องใจ... มันหมายความว่าอย่างไร


                แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ไหล่ขาวๆ มันน่าดูดมาก (อ่าว เปลี่ยนอารมณ์เร็วเกินอิสัส)


                เขาลืมเรื่องคิดหนักชั่วคราวก่อนจะก้มมองที่ไหล่ขาวเนียน... ร่างสูงเอาหัวแบคฮยอนออกจากแขนซ้ายตัวเองก่อนจะพลิกตัวคร่อมร่างเล็กที่กำลังหลับสนิท

                “รักนะ... รักกลับบ้างได้มั้ย” เสียงกระซิบที่แหบพร่าพูดออกมาด้วยความรู้สึกหน่วงอยู่ข้างใน เขาก้มลงไปที่จุมพิตเบาๆ ที่ไหล่เล็กก่อนจะฝังริมฝีปากที่ต้นคอเนียนขาว บดจูบและดูดดึงจนเกิดรอยแสดงความเป็นเจ้าของปรากฎเด่นชัด

                “...”

                “อย่าไปโชว์ไหล่นี้ให้ใครเห็นนะ... เพราะกูเป็นเจ้าของแล้ว”



**********



เช้าวันรุ่งขึ้น

                ปวดหัวขั้นแมกซ์

                ก็แหงสิ กินโซจูเข้าไปสามขวดเต็ม


                แบคฮยอนพลิกตัวจากเตียงก่อนจะเดินงัวเงียไปที่ห้องน้ำหลังจากกดปิดนาฬิกาปลุกเสร็จ มองชุดที่ตัวเองใส่อยู่งงๆ... ก็นี่มันเสื้อชุน บ็อกเซอร์ที่ใส่ก็สั้นจุ๊ดอย่างกับแรดหลงป่ามาเข้ากรุง

                “อะไรวะเนี่ย... ยุงกัดหรอ” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อส่องกระจกในห้องน้ำแล้วเห็นรอยแดงบนต้นคอของตัวเอง แบคฮยอนพยายามเกาแต่ก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่เพราะมันไม่คัน -_-^

                ร่างเล็กเลิกสนใจ ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปปลุกชุนตามปกติ เขาเลิกงอนชุนแล้วล่ะ... ขี้เกียจงอนชุนนานๆ เพราะรู้ว่าไม่เป็นผลดีกับหัวใจตัวเองเท่าไหร่

                ชานยอลไปส่งเขากับคยองซูและจงอินที่บริษัทตามปกติ แต่เมื่อไปถึงก็เจอป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดอยู่หน้าตึก


                ของขวัญสำหรับคนซื่อสัตย์ของบริษัท - ทริปเที่ยวกระบี่ ประเทศไทย! หากคุณไม่เคยหยุดงานเลยภายในสองปี โปรดนำหลักฐานยื่นเสนอบอสประจำแผนก


                “เออ ไม่ต้องไปเที่ยวละไอ่เหี้ย เอะอะๆ พวกเราก็หยุดอ่ะ” แบคฮยอนมองป้ายไวนิลหงุดหงิด แต่จงอินกลับยิ้มแสยะ


                “อยากให้ผมพาไปเที่ยวมะ...”



 **********



                “เฮ้ย จงแด มึงได้ไปเที่ยวบริษัทปะวะ กูได้ไปนะเว่ย!” เสียงห้าวๆ ของมินซอกทักทายขึ้นขณะที่เพื่อนร่วมแผนกและหัวหน้าแผนกบัญชีทั้งสี่คนกำลังนั่งกินมื้อเที่ยงกันอยู่ที่ร้านเจ๊จวง

                “ห้ะ... ผมได้ไปว่ะ พอดีมีเส้นบอสจงอินเค้าน่ะ” จงแดตอบก่อนจะแอบเหล่มองไปทางคยองซู คนถูกมองก้มหน้าก้มตากินเหมือนชื่อจงอินไม่ได้กระทบอะไรกับจิตใจเขาเลยแม้แต่น้อย

                “เฮ้ย ดีละ! กูไปอยู่กับพวกมึงด้วยนะๆ พอดีเพื่อนกูแม่งไม่มีใครรอดเลยว่ะ”

                “อ้าว แล้วพี่รอดมาได้ไงวะ เหี้ยๆ อย่างงี้ไม่น่าได้ไปม้าง~” แบคฮยอนเหน็บ 

                “ไอ่สัส แม่กูมาส่งกูหน้าแผนกทุกวัน ไม่ให้กูมาทำงานทุกวันได้ไง =___=” มินซอกพูดถึงแม่เบาๆ เพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน แต่ก็ไม่ทันแล้วล่ะ ^^;

                “ไอ้มิน! ที่แม่ไปส่งเพราะแม่รู้ว่าแกจะโดดงานไง! แล้วตอนนี้ได้ไปกระบี่ก็ควรมาขอบคุณแม่บ้างนะ” เจ๊จวงตะโกนด่ามา นี่ไม่เขวี้ยงมีดปังตอมาใส่ลูกชายตัวเองด้วยก็บุญละ

                “ค้าบบบบบบ ขอบคุณณณณ” มินซอกหันไปกวนใส่แม่ทีนึงก่อนจะหันกลับมาคุยกับแบคฮยอน “แล้วผัวมึงไปปะวะ ไอ่ชุนเชินอะไรนั่นน่ะ”

                “ผัว -_-^” แบคฮยอนทวนคำพูดก่อนจะเบะปาก

                “เออน่ะ มันไปปะ”

                “พอดีว่าเส้นบอสจงอินเค้าใหญ่น่ะ... ชุนเลยได้ไป อิอิ” แบคฮยอนตอบพลางหัวเราะคิกคัก แหงล่ะ... เขาต้องเข้าไปขอร้องและกราบกรานไอ่บ้าจงอินว่าให้ชุนไปเถอะ ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ แถมยังโดนบังคับให้แบคฮยอนช่วยเรื่องเขากับคยองซูด้วย ถ้าไม่ช่วยจะส่งชานยอลกลับเกาหลีทันที TT____TT

                “เฮ้ย บอสจงอิน... มึงเอาเจ๊จวง แม่กูไปได้ปะวะ”

                “เอ่อ... ผมว่าไม่น่าได้อ่ะครับ ฮ่าๆๆๆ” จงอินตอบอย่างเกรงใจ

                “เอาเป็นว่า กูอยู่กับมึงละกันนะจงแด ดูๆ แล้วถ้ามึงไม่มีกูนี่มึงเดินคนเดียวเลยนะเนี่ย!” มินซอกตบบ่าก่อนจะเดินออกจากร้านกลับบริษัท


                เอิ่ม... พี่มินซอกแกพูดแรงไปม้อย TT___TT

                มันเจ็บตรงนี้ เจ็บตรงใจจงแดเลยน้า ฮืออออออออ


                เจอกันที่กระบี่นะทู้กโคนนนนนนนน!!!~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น