7
B, let’s get drunk *grin*.
หลายวันถัดมา
วันนี้เป็นวันชูซอกครับและเป็นวันหยุดราชการ
ผมกับชุนเลยคิดว่าจะไปเยี่ยมหลุมศพป๊ามันแล้วก็ไปนอนค้างคืนที่บ้านผม
ความจริงผมก็ยังติดต่อกับพ่อแม่ตัวเองอยู่ตลอดนะ
-_-;
แต่แม่ผมไม่ส่งเงินมาให้ซักวอนเดียวตั้งแต่ที่ผมแยกจากชุนมา (ทำไมทำกับลูกแบบเน้
T^T)
“บุ๊ค ทำไมไม่ใส่สเวตเตอร์
บอกว่าช่วงนี้อากาศเย็น นี่ก็ดื้อตลอด เดี๋ยวเป็นหวัดอีกหรอก” เสียงชุนบ่นยาวๆ
ปลุกผมจากภวังค์ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าผมลืมสเวตเตอร์ไว้ในห้อง
“ไม่ได้ดื้อแต่ลืมวุ้ย แป๊บนึง”
ผมวิ่งเข้าไปในห้องก่อนจะคว้าสเวตเตอร์มาสวมแล้ววิ่งออกมา
ชุนเป็นคนถือกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดและผมก็ห้ามถืออีกตามเคย
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่
พวกเราก็ขับรถเข้าสู่เขตชนบท ตึกระฟ้าสูงๆ ค่อยๆ
หายไปทีละน้อยและแปรเปลี่ยนเป็นผืนหญ้าสีเขียวๆ แทน
บรรยากาศนับว่าค่อนข้างสดชื่นมากจนทำให้ชุนปิดแอร์และเปิดกระจกรถ
เราขับรถขึ้นไปบนภูเขาสูงซึ่งเป็นที่ฝังศพของ
‘ปาร์คชานโฮ’ หรือพ่อของชุนมันนั่นแหละ
ชุนหยิบโซจูสองขวดกับช่อดอกลิลลี่สีขาวมาไว้ในมือ
ก่อนจะเดินนำไปที่หลุมฝังศพ
“ป๊าหวัดเด” ไอ่ห่าชุนทักทายพ่อตัวเองได้กวนประสาทมาก
“ป๊าชุนหวัดเด”
และผมก็กวนประสาทเช่นกัน 5555555555555
“ป๊า... ยังไม่เป็นนะ”
ชุนมักจะพูดประโยคนี้เสมอเวลามาเยี่ยมหลุมศพป๊า
ผมก็ไม่เข้าใจรูปประโยคเท่าไหร่อ่ะ -_-; ยังไม่เป็นห่าไรของแม่งไม่รู้อ่ะ เป็นเอดส์? เป็นมหาเศรษฐี? ไม่รู้สิ...
แปลกๆ เนอะ
“ป๊า” ผมขัด
“ชุนมันตีบุ๊คด้วยแหละ ตั้งสองที บุ๊คแค่พาเพื่อนที่เมาไปส่งบ้านเอง
บุ๊คไม่ได้กินเหล้าด้วยนะป๊า ทำไมมันทำอย่างงี้อ่ะ”
“ป๊า แต่ผมก็ทายาหม่องที่ตูดมันแล้วนะ
โอ๋มันด้วย ลูบตูดมันด้วย”
“ไอ่สัส มึงไม่ต้องเล่าขั้นตอนนั้นให้ป๊าฟังก็ได้
กูอาย - / / -” ผมตีหลังมันทีนึงก่อนจะเปิดขวดโซจูให้ “ป๊าอย่ากินจนเมานะเห้ย
เดี๋ยวจีบนางฟ้าไม่ติด นางฟ้าไม่ชอบคนขี้เมา”
“สัส ป๊ากูจะไปจีบคนอื่นทำไมห้ะ
ป๊ากูก็ไปอยู่กับม๊ากูเด้” เออ ลืมไปว่าแม่มันเสียไปตั้งแต่มันเด็กๆ
แต่มันก็ไม่เคยไปเยี่ยมแม่มันเลยนะ 5555555555 เห็นบอกว่าแม่ไม่รัก (แหม
แล้วพ่อรักมึงตายล่ะ เห็นทะเลาะกันจนหนีออกจากบ้านเลยนี่ครับ ดอกครับ)
“เออเอาน่ะ แต่ป๊า...
บุ๊คอยากแต่งงานกับชุน แล้วชุนมันเสือกไม่ยอมแต่งกับบุ๊คอ่ะ ป๊าตีมันให้หน่อยเด่ะ”
ผมพูดต่อ และดูเหมือนว่าชุนจะเริ่มขี้เกียจโกรธเวลาผมพูดเรื่องนี้แล้ว
มันเลยกวนตีนใส่
“ก็บุ๊คมันไม่ชอบผมซักทีอ่ะป๊า
เนี่ย ถ้ามันชอบผมเมื่อไหร่ผมก็จะแต่งงานกับมันทันทีเลย ป๊าก็รู้อยู่เนอะ”
ไอ่เหี้ยอะไรอีก ป๊ามึงรู้อะไรอีก
“เออน่ะ ใกล้จะชอบละ
อย่าพึ่งมาขัดขวางละกันไอ่ห่า” ผมพูดปัดก่อนจะหยิบโซจูที่วางให้ป๊ามันมากรึ๊บหนึ่งอึก
“บุ๊ค มึงอยากโดนกูตีตรงนี้ใช่มะ
แย่งป๊ากูแดกกูไม่ว่าเลยนะ แต่กูไม่ให้มึงแดกเหล้านะบุ๊ค จำไม่ได้หรือไม่คิดจะจำ?”
โดนมันด่าตลอด ตลอดอ่ะกู แต่ยิ่งโดนด่ายิ่งสบายใจ 555555555555
“จำไม่ได้! แหม... กูแดกนิดๆ หน่อยๆ แถมอยู่ในสายตามึงนะเว่ย
กูไม่ไปเมาอ้อนใครหรอกหน่า” ผมตอบอย่างหมั่นไส้
ชุนเคยบอกผมว่าถ้าผมกินเหล้าจนเมามาก ผมจะอ้อนคนเค้าไปทั่ว (จริงหรอ T^T)
“เออๆๆ ไปละนะป๊า ไว้เปลี่ยนสถานะแล้วจะพามาใหม่”
ประโยคบอกลาป๊ามันคือประโยคนี้ทู้กที และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม TT___TT
แปลกๆ เนอะ
แต่เอาเถอะ
เรื่องของมัน เราอย่าไปเสือก
พวกเราขับรถกลับมาที่โซลอีกรอบ
เพราะบ้านพ่อแม่ผมอยู่ที่โซลไง และถึงแม้ว่าจะมาหาพ่อแม่ผมแค่วันหยุดนักขัตฤกษ์
ชุนก็ยังคงจำทางได้เสมอ
เหย
แต่กูก็จำทางไปหลุมศพป๊ามันได้นะเว้ย -^-
“แม่แจ๋~~~” ผมทำตัวเสียงดังก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
ชุนที่ถือข้าวของพะรุงพะรังก็เดินตามมาติดๆ
“ว้ายยยยยยยย บุ๊คกับลูกเขยยยย”
และแม่ผมก็จะทักพวกผมแบบนี้ประจำ ความจริงคนพวกนี้ก็เป็นคนตั้งชื่อชานยอลกับแบคฮยอนนะ
แต่พ่อแม่พวกเราก็เรียกเราว่าบุ๊คกับชุนตามพวกเราไปแล้วล่ะ T_T
“อะไรคุณ ชุนมันมาด้วยรึไง”
เสียงพ่อผมดังขึ้นจากหลังบ้านก่อนจะเดินเข้ามาหา
“ช่ายยยยย~ แหม ยิ่งโตยิ่งหล่ออ่ะคนเนี้ย บุ๊คไม่คิดจะเอาชุนเป็นแฟนบ้างหรอลูกกกกก”
แม่ผมถามอารมณ์ดี นี่นางจะอารมณ์ดีเกินไปละ
“คุณนี่ก็ชอบให้สองคนนี้เป็นแฟนกันตลอด
เด็กมันจะทำอะไรก็เรื่องของมันเถอะหน่า” พ่อผมมักจะขัดใจแม่อย่างงี้ประจำ
แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนับสนุนนะ คนนี้อ่ะตัวดีเลย -_-^
“หวัดดีครับพ่อบุ๊ค
แม่บุ๊ค” มันโค้งสวัสดีสวยงามก่อนจะเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บข้างบน
แม่ผมมักจะทำความสะอาดห้องนอนผมอยู่เสมอ เวลาพวกผมมาทีไรก็นอนได้เลย
“นี่!
เมื่อไหร่จะเอาชุนเป็นแฟนซักทีล่ะบุ๊คคคค แม่รอจนจะแก่ตายแล้วนะ”
แม่ผมเข้ามากระซิบ
“ก็จะแต่งงานหนีภาษีกับมันเนี่ย แต่มันไม่ยอมแต่งกับหนูอ่ะแม่”
ผมบอกพลางเบะปากงอน
“เอ้า! แต่งงานหนีภาษีใครเค้าจะไปแต่งด้วยล่ะ ต้องแต่งจากใจ ต้องรักชุน
ชุนเค้าถึงจะยอมแต่ง”
“ก็จะรักมันหลายรอบแล้วเนี่ย! โดนด่าตลอด” ผมตอบก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดไปหาพ่อ
“วันนี้หนูอยากกินเหล้าอ่ะ ให้หนูกินนะพ่อนะ”
“ถามไอ่ชุนนู่น”
พ่อโบ้ยไปทางไอ่ห่าชุนที่กำลังลงมาจากชั้นสอง
นี่ใครเป็นพ่อกูกันแน่ห้ะ =___=
“พ่อ พี่จุนกลับบ้านปะวันนี้”
ผมหันไปถาม พ่อผมพยักเพยิดไปที่ห้องครัวเหมือนว่าพี่จุนอยู่ในนั้น
พี่จุนคือพี่ชายของผมเอง
ชื่อเต็มคือจุนมยอน... เอาจริงๆ ก็คือตอนแรกมันชื่อ ‘แจ-มยอน’ และก็คล้องกับ ‘แบคฮยอน’
อยู่ดีๆ หรอก แต่พอเห็นผมชื่อบุ๊ค พี่แกเลยอยากชื่อเป็นสระอุบ้าง
เลยขอแม่ไปเปลี่ยนชื่อเป็นจุนมยอน
(ตอนแรกจะชื่อจุ-มยอนแล้วนะ แต่แม่บอกว่าทุเรศ)
“เพ่จุนนนนน~~~~~”
ผมเดินเข้าไปในครัวก่อนจะเห็นพี่ชายที่อายุห่างกันสี่ปียืนหั่นอะไรบางอย่าง
พี่แกเป็นพี่ที่ใจดี น่ารักและผมก็รักพี่มากด้วย ผมว่าพี่จุนอาจจะเป็นคนเดียวในโลกใบนี้ที่ไม่รู้จักคำหยาบใดๆ
เลยก็ได้ -0-;
“อ้าว บุ๊ค มาแล้วหรอ
พี่ซื้อโซจูมาเต็มเลย บุ๊คเอาไปกินที่คอนโดด้วยนะ เผื่อโด้เผื่อชุนมัน”
พี่จุนหันมาบอกก่อนจะเริ่มผัดกับข้าว
“วันนี้ชุนก็มานะ ทำกับข้าวเยอะๆ
ด้วย อิห่านี่แดกเยอะ”
“อ่าวหรอ แล้วเป็นแฟนกันรึยังล่ะ
ฮ่าๆๆๆ” พี่จุนแกถามอย่างงี้มาตั้งแต่ผมเปลี่ยนชื่อเป็นบุ๊คละ (ว่าง่ายๆ
คือป.หนึ่งอ่ะแหละ 55555555)
“ยัง! พี่รีบทำกับข้าวเลยนะ บุ๊ครอกินอยู่ แบร่ๆ” ผมแลบลิ้นก่อนจะเดินออกมา
ผมว่าที่ผมทำกับข้าวไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียวคงเป็นเพราะพี่จุนทำให้กินตลอดเวลาแน่ๆ
“พี่ก็รอให้บุ๊คกับชุนเป็นแฟนกันอยู่น้า~”
กูไม่เคยด่าพี่จุนมาก่อนเลยนะ
แต่กูคงจะด่าพี่แก (ในใจ) ก็วันนี้แหละ =__=
**********
หลังมื้อเย็น
“แง่มๆ หัวชุนอร่อย~” เจ้าตัวเล็กจับหัวเพื่อนตัวสูงไว้ก่อนจะกินเส้นผมเหมือนเป็นเส้นทาโร่
ร่างสูงหัวเราะร่าก่อนจะหันไปหาแบคฮยอนอย่างใจดี
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เอานะบุ๊ค
อย่ากินหัวกู” ชานยอลเอามือดันปากแบคฮยอนออกจากหัวตัวเอง นี่พึ่งสระผมมาเมื่อเช้า
คงต้องไปสระอีกรอบแล้วเนี่ย
“จะกิน!” แบคฮยอนเบะปากก่อนจะหันไปบอกพ่อตัวเอง “พ่อดูมันเด่ะ
มันไม่ให้หนูกินหัวมันอ่ะ!”
“บุ๊คเมาแล้วนะลูก”
คนเป็นพ่อชักจะรำคาญ พอลูกชายตัวเองเมาทีไรแม่งเป็นห่าไรไม่รู้
นี่ขนาดให้กินโซจูแค่สามแก้วเป็นการฉลองวันชูซอก ทำไปทำมาแม่งเมาก่อนใครเพื่อน
“ยังไม่เมา! ไม่เชื่อให้หนูทำแบบทดสอบของไอ่ห่านี่เด่ะ~ ชุนนนน
มึงถามกูมาเล้ยยย~ กูตอบได้โหมดดด” แบคฮยอนหันไปตีหัวชานยอลก่อนจะนั่งตาแป๋วรอรับแบบทดสอบ
ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะถามขึ้น
“1 + 1?”
“จ๋อง!”
“2 + 2?”
“ฉี่~~~~~~” คนตัวเล็กพูดพลางทำท่ายืนฉี่ให้ดู
“นี่ไม่เมาหรอชุน -_-?” จุนมยอนหันมาถามว่าที่น้องเขยด้วยสีหน้าเพลียจิต
“ไม่เมาครับไม่เมา ถ้ายังตอบเป็นเลขได้อยู่แปลว่าเมาไม่มาก
ยังมีสติอยู่ครับ ฮ่าๆๆๆ” ชานยอลหัวเราะก่อนจะลุกขึ้น ยื่นมือไปให้คนตัวเล็กจับ
“ขึ้นห้องได้แล้วนะ ไปนอนกัน”
“ม่ายอาว~ อยากคุยเรื่องตลาดหุ้นปีที่แล้วกับพ่อก่อน”
“หัวข้อในวงเหล้ามึงจริงจังเกินไปเว่ยแบค
พ่อไม่อยากฟังหรอกใช่มั้ยครับ?”
ชานยอลหันไปถามชายวัยกลางคนที่ตอนนี้รีบส่ายหน้ารัวๆ “เห็นมะ พ่อไม่อยากฟังมึงแล่ว
ขึ้นนอน”
“แล้วชุนนอนด้วยป่าว
ถ้าชุนไม่นอนกูไม่นอนนะ!!”
“จะตะโกนทำไม อายแม่อายพ่ออายพี่จุนมั้ยเนี่ย
-_-^
เดี๋ยวกูตามไปนอน แต่ขอลงมาคุยอีกครึ่งชั่วโ...”
“ให้ได้แค่ห้านาทีเท่านั้นแหละ!!” แบคฮยอนขัดก่อนจะยอมเดินไปที่ห้องนอนตัวเอง
ร่างเล็กจับท่อนแขนของชานยอลไว้เหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยว...
นี่ถ้าพ่อแม่และพี่จุนไม่อยู่
กูอุ้มพาดบ่าแล้วจับตีตูดละสัส
*กระแอมหล่อๆ* กูต้องเป็นลูกเขยและน้องเขยที่ดีสิๆๆ
“นอนก่อนนะ” ชานยอลห่มผ้าให้คนตัวเล็กที่ขึ้นไปขดตัวอยู่บนเตียง
แต่มือเล็กก็เอื้อมมาจับไว้
“นอนก่อนไม่ได้หรอก
ก็รู้นี่นา...” เสียงเล็กอู้อี้อยู่ในลำคอจนคนตัวสูงหัวเราะ
“ฮ่าๆ รู้แล้ว... เดี๋ยวมานะ
ขอสิบนาที”
“อื้อ จะถ่างตารอ คิกๆ”
คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักในลำคอก่อนจะเอานิ้วมาถ่างตาให้โตขึ้น
ชานยอลยิ้มก่อนจะลงมานั่งข้างๆ เตียง
“มึงยังทำแบบทดสอบไม่จบเลยนะ”
“ช่ายๆ
ยังมีอีกสองข้อยังไม่ได้ตอบ” แบคฮยอนนึกขึ้นได้ก่อนจะหันมามองคนตัวสูง
ตาที่ฉ่ำวาวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เรียกให้คนตัวสูงเผลอใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
มือหนาเอื้อมไปจับมือเล็กที่เย็นเฉียบก่อนจะพูดแบบทดสอบการเมาต่อ
“ชุน + บุ๊ค?”
“BEST
FRIEND FOREVER!!!”
คำตอบนี้มักจะเป็นคำตอบตอนที่บุ๊คไม่เมามากเท่าไหร่...
“จงอิน + คยองซู?”
“NOTHING!!!... เป็นไง กูตอบถูกทุกข้อเบยยย~”
คนตัวเล็กตอบฉะฉานก่อนจะยิ้มโชว์รอยบุ๋มที่ใต้ตาทั้งสองข้าง “มานอนไวๆ นะ >__<”
“อื้ม”
ชานยอลยิ้มตอบก่อนจะเดินออกจากห้องนอน มือขวายกขึ้นมากุมที่อกข้างซ้ายตัวเอง
ก็มันเต้นแรงเกินไป... แรงเกินกว่าหัวใจมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะเต้นได้
“มาๆๆๆ ลงมาๆๆ”
เสียงแม่แบคฮยอนร้องเรียกจากด้านล่าง ชานยอลจึงรีบซอยเท้าวิ่งลงบันไดไปหาทันที
“เฮ้ออออออ”
เมื่อถึงวงเหล้าเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รอยยิ้มฝืนปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา
“เอาหน่าๆ
จีบมันอีกซักยี่สิบปีก็ไม่สายหรอกนะลูกเขยนะ” หญิงวัยกลางคนยกแก้วโซจูขึ้นมาซด
ก่อนจะพูดปลอบใจลูกเขยอย่างเต็มที่
“ชุน แกยังจีบบุ๊ครึเปล่าเนี่ย” พี่จุนมยอนเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“ยังจีบนะพี่ ผมทำเหมือนเดิมมาตลอด
ยกให้บุ๊คเป็นคนพิเศษ
แต่เหมือนบุ๊คจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนสนิทเค้าทำกัน”
ผู้ที่อ่อนอายุและประสบการณ์ที่สุดในวงเหล้าพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
“นั่นไง!” แม่แบคฮยอนเอามือทุบโต๊ะดังปัง “นั่นแหละ... อันนั้นแหละ”
“อะไรของคุณ -_-?” พ่อแบคฮยอนหันไปถามก่อนจะนึกขึ้นได้บ้าง “เออใช่! O_O ใช่ๆๆๆ”
“อะไรหรอครับ TT___TT”
“สิ่งพิเศษๆ ที่เราอุตส่าห์ทำให้...
กลายเป็นของธรรมดาในสายตามัน เราก็ต้องปฏิบัติกับมันแบบธรรมดาๆ บ้าง
มันจะได้สำนึก” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คนตัวสูงเบิกตาโพลงอย่างตกใจ... ใช่ เขาไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้เลย
“ผมต้องทำยังไงครับพ่อ?”
“เมินแม่ง ปล่อยแม่งเฉาตายไป
เอาให้มันนอนร้องไห้เลย”
“ใช่เลยยชุน” จุนมยอนเสริม “ให้บุ๊คอยู่ด้วยตัวเองบ้าง
แล้วบุ๊คก็จะนึกถึงชุน... ทีนี้แหละ บุ๊คก็จะรู้ตัวเองซักทีว่ามีคนที่อยู่ดูแลตัวเองมานานแค่ไหน”
“ผมจะทำได้มั้ยเนี่ย...”
ชานยอลก้มหน้านิ่ง เขาดูแลเพื่อนคนนี้มาแทบทั้งชีวิต... แล้วจู่ๆ
จะให้มาเลิกดูแลกันคงทำได้ยาก
“ทำไม่ได้ก็ต้องทำล่ะ โง่ๆ บื้อๆ
อย่างนั้นจะไปรู้เรื่องอะไร” แม่แบคฮยอนสนับสนุนเต็มที่
คนตัวสูงพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ได้ครับ!
งั้นผมจะทำเดี๋ยวนี้ ผมไปนอนก่อนนะครับ”
“เดี๊ยวๆๆๆ นอนแยกห้องด้วย
ให้มันนอนคนเดียว” ชายวัยกลางคนยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาชี้ไปที่ห้องจุนมยอนเหมือนจะให้จุนมยอนไปนอนกับแบคฮยอนแทน
บอกเลยว่าแอบลังเล... เพราะถ้าเขาขาดแบคฮยอนก็นอนไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ
เอาไงดี
...
อืม
คืนนี้ลองแยกกันนอนดูซักทีนะบุ๊ค
**********
*เบะปาก*
“ไม่เอาหน่า
อย่าไปโกรธชุนกับพี่จุนเค้าสิลูก พี่จุนเค้าอยากนอนกับหนูบ้างนี่ผิดตรงไหน” แม่แบคฮยอนพูดเกลี้ยกล่อม
เพราะลูกชายคนเล็กของบ้านนั่งกอดเบะปากตั้งแต่ตื่นนอน
“แล้วทำไมชุนต้องนอนแยกด้วย”
เสียงเล็กกระฟัดกระเฟียดถาม
“เอ้า... ก็เตียงหนูมันนอนไม่พอ จะให้ชุนลงไปนอนด้วยได้ยังไงลูก”
หญิงวัยกลางคนเอามือลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นี่อายุอานามก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าละ
ยังจะงอนเป็นเด็ก
“ผมขอโทษครับ
ผมเลี้ยงบุ๊คแบบตามใจเกินไปหน่อย” ชานยอลพูดพลางโค้งก้มหัวให้ผู้มีอาวุโสทั้งสาม
ทำให้คนที่กำลังงอนยิ่งงอนเข้าใหญ่
“ก็มึงเลี้ยงให้กูนอนกับมึงมาตลอดนี่หว่า!
แล้ววันนี้อะไร!? กูลืมตาตื่นมาเป็นพี่จุนนี่คิดว่ากูตกใจมากมะ?”
แบคฮยอนตะโกนโวยวาย ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามได้แต่ก้มหน้า...
แหม
ใครมันจะไปคิดว่าจะโกรธจัดขนาดนี้ แถมยังลงมานั่งอยู่ข้างล่างคนเดียวตั้งแต่ตีสาม
เพราะเผลอลืมตาตื่นมาเจอว่าพี่จุนนอนอยู่ข้างๆ
ไม่มีชุนใครมันจะไปนอนด๊าย~
“อย่าอย่างงี้นะบุ๊ค งอนกูได้แต่อย่างอนพ่อแม่กับพี่จุน”
เสียงของชานยอลดุขึ้นมาทันที
ทำเอาผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสามแอบหัวเราะในใจที่เห็นเด็กน้อยแบคฮยอนเหลือตัวเท่ามด
“กลับคอนโดแล่ว!
บายนะพ่อแม่พี่จุน บายๆๆๆ” แบคฮยอนลุกขึ้นมาจากเก้าอี้
ก่อนจะถือกระเป๋าเดินทางเอง ชานยอลวิ่งเข้าไปจะช่วยถือก็สะบัดไม่ให้ถืออีกต่างหาก
“พี่เอาโซจูใส่ไว้ในรถแล้วนะชุน
คืนนี้มอมเลย” เสียงพี่จุนกระซิบแผนร้าย ก่อนจะตบบ่าให้กำลังใจ
ร่างสูงโค้งลาพ่อแม่และพี่จุนพลางวิ่งไปที่รถ
เอาวะ มอมก็มอม!!!!
**********
เมื่อกลับไปถึงที่คอนโด
คนตัวเล็กที่ไม่พูดอะไรมาตลอดทางก็เดินปึงปังเข้าไปในนั่งบนโซฟาก่อนจะซุกตัวลงนอน
เป็นเพราะเพลียจากการนั่งตาแข็งมาตั้งแต่ตีสามแท้ๆ เลย...
ร่างสูงไม่ได้พูดอะไร
เขาพอจะรู้ว่าคนตัวเล็กอยากพักผ่อน จึงเดินไปที่ห้องฝั่งตรงข้าม... โดคยองซู
“มึงมามอมเหล้าบุ๊คให้หน่อยดิ”
“อะไรอีกล่ะ -_-;
อยากได้ยินมันบอกรักรึไง? ฮ่าๆ” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกสุดๆ
“นิดนึง...
แต่พี่จุนกำชับมาว่าให้กูมอมมัน กูก็ต้องทำตามคำสั่งพี่เขยไง”
ชานยอลพยายามเอาคนอื่นมาอ้าง
“แล้วทำไมไม่มอมเอง”
“มันโกรธกูอยู่ โกรธมาก...
เมื่อคืนกูไม่ได้นอนกับมัน มันตื่นมารู้ว่าเป็นพี่จุนนี่ไม่ยอมนอนต่อเลยนะ”
ชานยอลอธิบายช้าๆ ความจริงเขาก็ง่วงอยู่นิดหน่อยเพราะเมื่อคืนหลับๆ ตื่นๆ เหมือนกัน
“อ่อ...
อย่างงี้ค่อยน่าสนุกหน่อย” คยองซูยิ้มแสยะ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของทั้งสองคน
“อ้าวโด้ มาทำไม” แบคฮยอนที่ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามาก็ลุกขึ้นมาดู
เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่ใช่ไอ่บ้าตัวยักษ์ก็ยอมพูดด้วย
“หิวโซจูง่ะ
เห็นชานยอลบอกว่าพี่จุนให้มาเยอะเลยนิ”
คยองซูเดินไปที่ขวดโซจูสิบกว่าขวดที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะหยิบมาสามขวด
“กูไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากเมาละ”
แบคฮยอนปฏิเสธ แต่คยองซูก็รั้งไว้
“นะๆ T^T
กินเป็นเพื่อนหน่อย นิดเดียวเอง...”
นิดเดียวเอง...
นิดเดียวเอง...
.
.
“มันกินคนเดียวไปสามขวดอ่ะ
รับผิดชอบละกัน อ้วกแตกขึ้นมากูไม่รู้ด้วยนะ บายล่ะบาย”
คยองซูที่ยัดให้เพื่อนกินไปคนเดียวสามขวด ส่วนตัวเองกินแค่จิบๆ ก็รีบออกมาจากห้อง
ชานยอลที่นั่งรออยู่ในห้องคยองซูตั้งชั่วโมงนึงจึงเดินกลับไปที่ห้องตัวเองได้ซักที
ร่างสูงสูดลมหายใจลึกๆ
เพื่อไล่ความตื่นเต้น... จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง
บุ๊คเมาทีไรเปลี่ยนเป็นคนละคนทุกที
ทั้งน่ารัก... น่าฟัด... น่าหยิก...
น่าได้... น่าเอา...
ไม่ต้องมาหาว่าหื่นเลยนะ!
คอยดูแล้วกัน...
เจอแบบนั้นใครไม่หื่นก็ตายด้านละครับ -.,-
“เฮลโหลว...”
เขาส่งเสียงเข้าไปก่อน พลางเดินช้าๆ เพื่อสำรวจว่าคนตัวเล็กอยู่ในอาการไหน
“ชุน~~~~~~~~~”
น้ำเสียงที่ร่าเริงผิดปกติทำให้ร่างสูงใจชื้น มันคงเมาเต็มที่แล้วจริงๆ...
ภาพที่เห็นคือแบคฮยอนใส่เสื้อกีฬาตัวใหญ่โคร่งของเขาจนคอเสื้อหล่นมาตกอยู่ที่ไหล่เนียนขาว
ชานยอลเผลอซี๊ดปากนิดหน่อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สายตาหื่นกามสำรวจด้านล่าง...
ขาขาวเนียน (ที่มีขนหน้าแข้งเล็กน้อย) ถลกเปิดซะจนจะเห็นไปถึงแก้มก้นละ
ด้านในไม่รู้ว่าใส่บ็อกเซอร์ไว้รึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ไม่เห็นว่าใส่อะไรอยู่...
ไอ่เหี้ย...
เห็นมันเดินแก้ผ้าไปมาก็บ่อย แต่ทำไมช็อทนี้มันบั่บ... มันบั่บ...
“อ้อชานยอล!” คยองซูเปิดประตูเข้ามาในห้อง “กูเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มันด้วย เอ็กซ์แตกดีมั้ยมึง
เออ... จะได้ได้กันซักที กูรำคาญเต็มทนละ”
สัสโด้แม่ง
ทำอะไรปรึกษากูก่อนมั้ย
ถึงกูจะอยากได้มัน
แต่กูไม่ข่มขืนมันตอนเมาเว่ยยยยยยย O / / O!! (แล้วทำไมต้องหน้าแดง...)
“ไหน... บุ๊คทำอะไรอยู่เอ่ย”
เขาเดินเข้าไปนั่งข้างๆ จนร่างกายเบียดแนบชิดก่อนจะพูดจาหวานหู...
มันเป็นคำพูดและกิริยาที่อยากจะทำกับบุ๊คมานานแล้ว
แต่ก็ทำได้แค่ตอนบุ๊คเมาไม่รู้เรื่องเท่านั้น...
“บุ๊คว่าง~~~
ชุนมาเล่นกับบุ๊คมั้ยๆๆ” คนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำพูดจาน่ารัก
ก่อนจะจับแขนแกร่งไว้แล้วเอาหน้าซุกลงไป “คิดถึงชุนมากเลย~~ ชุนหายไปไหนมาง่ะ”
“ชุนไปนั่งรอบุ๊คเมาที่ห้องโด้มาน่ะ”
เขาตอบไปตรงๆ
“หู่ยยยยยยยยย~~
คราวหลังก็มากินด้วยกันจิ นะๆ” นอกจากจะทำเสียงอ้อนไม่พอ...
ยังเอาแก้มถูแขนเขาซะจนขนลุก โอยยยยย... เขินนะๆๆๆๆ - / / / / / -
“ทำแบบทดสอบการเมาก่อนนะบุ๊ค”
ชานยอลพยายามทำเสียงให้จริงจังก่อนจะดันหน้าคนตัวเล็กให้ออกห่างจากแขนตัวเอง
ปรากฏว่าคนตัวเล็กงับนิ้วเขาไว้ก่อนจะจ้องเหมือนหมาพันธุ์ปอมมีเรเนียนกำลังโมโห...
แล้วปอมมีเรเนียนดุมันจะไปดุยังง๊ายยยยยยย
T
/ / / / T
มันก็น่ารักเด่ะ!!!!!
ไม่เชื่อมึงดูรูป!!
“1 + 1?” เขาพยายามกัดฟันสะกดกลั้นอารมณ์ ทำตัวจริงจังไว้ก่อน
“แปดล้าน”
“2
+ 2?”
“สิงโตทะเล
งั่มๆ” ตอบเสร็จก็งับนิ้วเขาอีกรอบ
“ชุน + บุ๊ค?”
...
“ซารัง”
และนี่... คือคำตอบเดิมๆ ที่เขาได้ยินทุกครั้งที่แบคฮยอนเมาจนไม่รู้เรื่อง...
ทำไมมึงต้องตอบคำนี้วะบุ๊ค
มึงคิดอะไรกับกูรึไง...
ถ้าใช่ก็บอกกูที...
บอกให้กูรู้ซักที
“จงอิน + คยองซู?”
“ผัวเมียตัดไม่ขาด”
ร่างเล็กตอบพลางหัวเราะคิกคักในลำคอ
และนี่ก็เป็นคำตอบอีกคำตอบหนึ่งที่แบคฮยอนจะตอบเวลาเมาเอ๋อแบบนี้
“อ่า~ แสดงว่าเมาจริง” ชานยอลอยากจะยิ้มให้กว้างถึงรูหู
แต่เขาก็ต้องกลั้นยิ้มไว้เพราะมันเขินมาก คนตัวเล็กข้างๆ ก็อ่อยด้วยไหล่เนียนๆ
นั่นอีก แม่มเอ๊ย เอาไงกับชีวิตกูวะ
“ชุนๆๆ~~
บุ๊คง่วงง่ะ เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย งื๊ออออ” แบคฮยอนดิ้นนิดหน่อยเพราะเซ็งที่เมื่อคืนไม่ได้นอน
ชานยอลเอื้อมมือไปขยี้หัวเล็กก่อนจะหันไปพูดยิ้มๆ
“งั้นเดี๋ยวพาไปนอนนะ”
“นี่เที่ยงคืนแล้วใช่ป่าว
ทำไมยังสว่างอยู่เลยง่ะ... อุกกาบาตตกหรอ...” แบคฮยอนหันออกไปมองนอกหน้าต่าง
แดดจ้าขนาดนั้นเที่ยงคืนบ้านพ่อมึงหรอแบคฮยอน
“เที่ยงวันน่ะ -_-;
แต่นอนได้ นอนยาวไปเลยนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นละกัน”
“ก็ได้ งั้นนอนก่อนนะ
ชุนนอนด้วยนะ 'ㅅ'” แบคฮยอนส่งสายตาอ้อนวอนจนร่างสูงถอนหายใจ
“เฮ้อ ให้นอนตอนนี้ชุนนอนไม่หลับหรอก
แต่เดี๋ยวอุ้มไปส่งที่เตียงนะ ดีมะ” ชานยอลยิ้มกรุ้มกริ่ม
ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะอุ้มหรอก ตัวหนักชิบหาย แต่จะโทษใครได้...
ก็เขาเนี่ยแหละเป็นคนขุนมันให้อวบอั๋นเอง
บังเอิญวันนี้แบคฮยอนมันน่ารัก+มุ้งมิ้ง+เซ็กซี่+เอ็กซ์แตก
ยอมอุ้มดูหน่อยจะเป็นไร๊~
“ต้องอุ้มด้วยอ่อ...”
แบคฮยอนก้มหน้าพูดเหมือนเขินอะไรบางอย่าง
แก้มใสที่แดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก
“อุ้มดิ บุ๊คจะได้ไม่ต้องเดินไง
สบายดีออก”
“แต่บุ๊คตัวหนักนะ... ชุนจะปวดแขน
ปวดไหล่ ไม่เอาง่ะ”
“ไม่ปวดหรอกหน่า มาเร็ว
มาให้ชุนอุ้มนะ” คนตัวสูงกระซิบข้างหูก่อนจะช้อนคนตัวเล็กขึ้นในอ้อมแขน
ขอถอนคำพูดที่เรียกมันว่า ‘คนตัวเล็ก’ มาตลอด =_______=
อิเหี้ย
ถ้าแม่งสร่างเมาเมื่อไหร่กูจะสั่งงดช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปและทองหยิบทองหยอด
“หนักใช่มั้ยง่ะ T__T
บุ๊คขอโทษ บุ๊คอ้วน อย่าเกลียดบุ๊คนะ”
เสียงเล็กพูดอู้อี้พลางเอาหน้าซุกลงที่ไหล่กว้าง
“เออหนัก แต่ทนได้
รักไปแล้วนี่หว่า... จะให้เกลียดยังไงวะ -_-;” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“งั้นห้ามเกลียดบุ๊คนะ
ถ้าชุนไม่รักบุ๊ค... บุ๊คอยู่ไม่ได้หรอก”
“... แล้วทีบุ๊คไม่รักชุน”
“...”
“ชุนยังอยู่ได้เลย”
น้ำเสียงที่พูดดูขาดห้วงและเจ็บปวด
หัวใจภายในบีบรัดจนเหนื่อยล้ามาตลอดสิบยี่สิบปี... เขาค่อยๆ
วางคนตัวเล็กลงบนเตียงหนาก่อนจะห่มผ้าให้ แขนซ้ายประจำที่เดิม...
และคนตัวเล็กก็เข้ามาซุกที่หน้าอกเขาเหมือนเดิม...
“บุ๊ครักชุนนะ
แต่ชุนไม่รู้หรอก... ชุนไม่เคยรู้” แบคฮยอนเถียงขึ้นมา ดวงตาเรียวเล็กยังคงปิดสนิท
“...”
“บุ๊คแค่กลัว...”
“กลัวอะไร?”
ร่างสูงถามขึ้นอย่างร้อนรน ประโยคที่พูดมาเมื่อกี้เหมือนมันมาจาก... จิตใต้สำนึก
แต่เมื่อก้มมองก็เห็นแบคฮยอนหลับปุ๋ยไปซะแล้ว...
เขาถอนหายใจอย่างเชื่องช้าและหนักหน่วงเหมือนก้อนหินกดทับ
คำพูดที่ค้างคาเมื่อกี้ทำให้เขาข้องใจ... มันหมายความว่าอย่างไร
แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ไหล่ขาวๆ
มันน่าดูดมาก (อ่าว เปลี่ยนอารมณ์เร็วเกินอิสัส)
เขาลืมเรื่องคิดหนักชั่วคราวก่อนจะก้มมองที่ไหล่ขาวเนียน...
ร่างสูงเอาหัวแบคฮยอนออกจากแขนซ้ายตัวเองก่อนจะพลิกตัวคร่อมร่างเล็กที่กำลังหลับสนิท
“รักนะ... รักกลับบ้างได้มั้ย”
เสียงกระซิบที่แหบพร่าพูดออกมาด้วยความรู้สึกหน่วงอยู่ข้างใน
เขาก้มลงไปที่จุมพิตเบาๆ ที่ไหล่เล็กก่อนจะฝังริมฝีปากที่ต้นคอเนียนขาว
บดจูบและดูดดึงจนเกิดรอยแสดงความเป็นเจ้าของปรากฎเด่นชัด
“...”
“อย่าไปโชว์ไหล่นี้ให้ใครเห็นนะ...
เพราะกูเป็นเจ้าของแล้ว”
**********
เช้าวันรุ่งขึ้น
ปวดหัวขั้นแมกซ์
ก็แหงสิ กินโซจูเข้าไปสามขวดเต็ม
แบคฮยอนพลิกตัวจากเตียงก่อนจะเดินงัวเงียไปที่ห้องน้ำหลังจากกดปิดนาฬิกาปลุกเสร็จ
มองชุดที่ตัวเองใส่อยู่งงๆ... ก็นี่มันเสื้อชุน
บ็อกเซอร์ที่ใส่ก็สั้นจุ๊ดอย่างกับแรดหลงป่ามาเข้ากรุง
“อะไรวะเนี่ย... ยุงกัดหรอ”
เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อส่องกระจกในห้องน้ำแล้วเห็นรอยแดงบนต้นคอของตัวเอง แบคฮยอนพยายามเกาแต่ก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่เพราะมันไม่คัน
-_-^
ร่างเล็กเลิกสนใจ
ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปปลุกชุนตามปกติ เขาเลิกงอนชุนแล้วล่ะ...
ขี้เกียจงอนชุนนานๆ เพราะรู้ว่าไม่เป็นผลดีกับหัวใจตัวเองเท่าไหร่
ชานยอลไปส่งเขากับคยองซูและจงอินที่บริษัทตามปกติ
แต่เมื่อไปถึงก็เจอป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดอยู่หน้าตึก
‘ของขวัญสำหรับคนซื่อสัตย์ของบริษัท - ทริปเที่ยวกระบี่ ประเทศไทย! หากคุณไม่เคยหยุดงานเลยภายในสองปี โปรดนำหลักฐานยื่นเสนอบอสประจำแผนก’
“เออ ไม่ต้องไปเที่ยวละไอ่เหี้ย
เอะอะๆ พวกเราก็หยุดอ่ะ” แบคฮยอนมองป้ายไวนิลหงุดหงิด แต่จงอินกลับยิ้มแสยะ
“อยากให้ผมพาไปเที่ยวมะ...”
**********
“เฮ้ย จงแด
มึงได้ไปเที่ยวบริษัทปะวะ กูได้ไปนะเว่ย!” เสียงห้าวๆ
ของมินซอกทักทายขึ้นขณะที่เพื่อนร่วมแผนกและหัวหน้าแผนกบัญชีทั้งสี่คนกำลังนั่งกินมื้อเที่ยงกันอยู่ที่ร้านเจ๊จวง
“ห้ะ... ผมได้ไปว่ะ
พอดีมีเส้นบอสจงอินเค้าน่ะ” จงแดตอบก่อนจะแอบเหล่มองไปทางคยองซู
คนถูกมองก้มหน้าก้มตากินเหมือนชื่อจงอินไม่ได้กระทบอะไรกับจิตใจเขาเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้ย ดีละ!
กูไปอยู่กับพวกมึงด้วยนะๆ พอดีเพื่อนกูแม่งไม่มีใครรอดเลยว่ะ”
“อ้าว แล้วพี่รอดมาได้ไงวะ เหี้ยๆ
อย่างงี้ไม่น่าได้ไปม้าง~” แบคฮยอนเหน็บ
“ไอ่สัส
แม่กูมาส่งกูหน้าแผนกทุกวัน ไม่ให้กูมาทำงานทุกวันได้ไง =___=” มินซอกพูดถึงแม่เบาๆ เพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน แต่ก็ไม่ทันแล้วล่ะ ^^;
“ไอ้มิน! ที่แม่ไปส่งเพราะแม่รู้ว่าแกจะโดดงานไง! แล้วตอนนี้ได้ไปกระบี่ก็ควรมาขอบคุณแม่บ้างนะ”
เจ๊จวงตะโกนด่ามา นี่ไม่เขวี้ยงมีดปังตอมาใส่ลูกชายตัวเองด้วยก็บุญละ
“ค้าบบบบบบ ขอบคุณณณณ”
มินซอกหันไปกวนใส่แม่ทีนึงก่อนจะหันกลับมาคุยกับแบคฮยอน “แล้วผัวมึงไปปะวะ
ไอ่ชุนเชินอะไรนั่นน่ะ”
“ผัว -_-^” แบคฮยอนทวนคำพูดก่อนจะเบะปาก
“เออน่ะ มันไปปะ”
“พอดีว่าเส้นบอสจงอินเค้าใหญ่น่ะ...
ชุนเลยได้ไป อิอิ” แบคฮยอนตอบพลางหัวเราะคิกคัก แหงล่ะ...
เขาต้องเข้าไปขอร้องและกราบกรานไอ่บ้าจงอินว่าให้ชุนไปเถอะ ไม่งั้นนอนไม่หลับแน่ๆ
แถมยังโดนบังคับให้แบคฮยอนช่วยเรื่องเขากับคยองซูด้วย
ถ้าไม่ช่วยจะส่งชานยอลกลับเกาหลีทันที TT____TT
“เฮ้ย บอสจงอิน...
มึงเอาเจ๊จวง แม่กูไปได้ปะวะ”
“เอ่อ... ผมว่าไม่น่าได้อ่ะครับ
ฮ่าๆๆๆ” จงอินตอบอย่างเกรงใจ
“เอาเป็นว่า
กูอยู่กับมึงละกันนะจงแด ดูๆ แล้วถ้ามึงไม่มีกูนี่มึงเดินคนเดียวเลยนะเนี่ย!” มินซอกตบบ่าก่อนจะเดินออกจากร้านกลับบริษัท
เอิ่ม... พี่มินซอกแกพูดแรงไปม้อย
TT___TT
มันเจ็บตรงนี้
เจ็บตรงใจจงแดเลยน้า ฮืออออออออ
เจอกันที่กระบี่นะทู้กโคนนนนนนนน!!!~
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น