วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ภษคส : 14 B, I hate HH COUPLEEEEE!!



14
B, I hate HH COUPLEEEEE!!



หลายวันผ่านไป

                หลังจากที่ชานยอลและแบคฮยอนไปคุยและติดต่อกับป้าเอยองแล้ว ไม่กี่วันทั้งคู่ก็ได้ฮุนฮุนมาเลี้ยงสมใจ แต่กว่าจะลากมาได้ก็เหนื่อยพอตัวเหมือนกัน 

                เพราะอะไรน่ะหรอ...


                ...


                แงงงงงงงงงงงงงงง เอาพี่ฮานฮานไปด้วยยยยย ฮุนฮุน... ฮึก ฮุนฮุนจะเอาพี่ฮานฮานไปด้วยยยยย เด็กน้อยแผดเสียงก่อนที่น้ำตาจะล้นทะลักออกมาไม่หยุด จนผู้ที่ถูกพาดพิงถึงต้องรีบเข้ามาปลอบ

                ฮุนฮุนอย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวพี่ก็ตามไปทีหลังไง เชื่อฟังป๊าม๊าตัวเองด้วยนะ

                ฮือออออออออออ เมื่อไหร่น้าโด้กับน้าจงอินจะแต่งงานกันซักทีง่ะป๊าชุน เซฮุนเอามือกระตุกชายเสื้อปะป๊าอย่างร้อนใจ นิ้วโป้งถูกอมเข้าไปในปากแต่พี่ฮานฮานก็จับดึงออกมา

                เสียบุคลิกนะฮุนฮุน

                แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง และเซฮุนก็ร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิมเพราะไม่มีอะไรได้ดั่งใจซักอย่าง พี่ฮานฮานใจร้ายที่ฉุดเลย ฮุนฮุนจะโกรธแล้ว!’

                ฮุนฮุน อย่าโกรธพี่เค้าสิลูก... ฮานฮาน เดี๋ยวน้าจะรีบไปบอกให้คู่นั้นแต่งงานเลย รอเดี๋ยวเดียวนะ แบคฮยอนเอื้อมตัวลงมาอุ้มฮุนฮุน ก่อนจะพูดปลอบใจเด็กน้อยที่โตกว่า

                ครับ ผมจะรอ ลู่หานยิ้มสุภาพก่อนจะโบกมือบ๊ายบายให้ฮุนฮุน แต่เด็กน้อยกลับสะบัดหน้าหนีและซบเข้าที่ไหล่ของผู้เป็นแม่แทน

                ไม่กี่วันเดี๋ยวฮุนฮุนก็ลืม อย่าคิดมากนะ ชานยอลก้มลงมากระซิบลู่เขย เอ๊ย ลู่หานพลางขยี้หัวเด็กน้อยเบาๆ ลู่หานพยักหน้ารับก่อนจะคำนับลาผู้ใหญ่ทั้งคู่แล้วเดินกลับเข้ามาในตึก

                เหงามั้ยจ๊ะ ป้าเอยองผู้แสนจะใจดีที่สุดในโลกของลู่หานเดินเข้ามาทักทาย ถ้าฮานฮานไปแล้ว... ป้าจะอยู่กับใครล่ะเนี่ย

                ฮ่าๆๆ นั่นสิครับ ป้าเอยองคงจะเหงามากแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมก็เหงาเหมือนกันนะเนี่ย ลู่หานหัวเราะแห้งๆ มองไปรอบกายก็ไม่เจอเด็กกำพร้าแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนถูกรับไปเลี้ยงเนื่องจากการแต่งงานหนีภาษีคนโสดจนหมดสถานสงเคราะห์แล้ว

                จ้า~ เอาเวลาตอนนี้ไปคิดหนทางง้อฮุนฮุนดีกว่านะ คิกๆ ป้าเอยองหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินไปทำงานต่อ ทิ้งให้เด็กน้อยที่ลืมตาดูโลกมาสิบสองปีคิดเอาเอง...

                เดี๋ยวฮุนฮุนก็คงลืม...


                ...



                อืม ลืมจริงๆ 5555555555555555555555555555555555


                เด็กน้อยมาถึงบ้านหลังใหม่ที่เคยมาแล้วครั้งหนึ่งอย่างอารมณ์ดี พี่ฮานฮานอะไรนั่นก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้ภาพตรงหน้าของเขาคือของเล่น ของเล่น และของเล่น! •w•

                ต้องยอมรับว่าป๊าชุนกับม๊าบุ๊คแกทำการบ้านกันมาดี ก่อนที่จะไปขอฮุนฮุนมาเลี้ยงก็ไปซื้อของเล่นมาเต็มไปหมด แถมยังจัดห้องส่วนตัวให้อีกด้วย แต่ไม่ได้ซื้อเตียงไว้ให้เพราะอยากให้ฮุนฮุนมานอนด้วยกันตรงกลาง

                แต่ตกดึกคืนนั้น... ทั้งคู่กลับนอนตาค้าง เพราะขาดอ้อมกอดของใครอีกคนมาเติมเต็ม
                

                เด็กน้อยฮุนฮุนนอนอ่านนิทานภาพดิสนีย์อยู่ตรงกลางอย่างมีความสุข คนเป็นป๊าม๊าก็ไม่กล้าจะทำอะไรได้นอกจากแกล้งทำเป็นหาหนังสือมาอ่านบ้าง


                “ฮุนฮุนว่า... ความจริงแล้วป๊ากับม๊าต้องนอนซบกันเป็นปกติแน่ๆ เยย พอฮุนฮุนมานอนคั่นกลางเลยนอนไม่หลับอ่ะจิ... ใช่ม้ะๆๆ งั้นฮุนฮุนนอนแยกห้องก็ได้นะคับป๊าม๊า” จู่ๆ เด็กน้อยก็พูดลอยๆ ก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากในความฟิน


                เด็กอะไร๊ รู้ทันไปซะทุกอย่าง


                แต่มันก็จริงอย่างที่ฮุนฮุนบอก ;-; เพราะฮุนฮุนมานอนคั่นกลางทำให้ป๊าม๊ามือใหม่มองหน้ากันชั่วคราว... ไม่รู้ว่าจะนอนยังไงเลยทีเดียว


                “ม... ไม่ต้องหรอกฮุนฮุน ^^; ความจริงพวกเราก็ไม่ได้นอนติดกันขนาดนั้น” แบคฮยอนเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านไม่รู้เรื่อง ก่อนจะมองหน้าคู่กรณีที่เงยหน้าจาก...

                หนังสือกลับหัว =__=

                โอ๊ย บ้ากันไปใหญ่ละ นี่ไม่มีใครอ่านหนังสือในมือจริงๆ เลยสินะ . / / / / / / / / .


                เดี๋ยวฮุนฮุนหลับแล้วกูจะอุ้มไปนอนริมละกันไอ้ป๊าบ้าพูดแบบไม่มีเสียงมาให้ เพราะเกรงใจลูกชายสุดชีวิต (ความจริงคือไม่อยากให้ลูกฟิน)

                ไอห่านี่เอานิ้วโป้งส้นตีนคิดปะถามจริง ลูกทั้งคนนะเว่ย ถ้าตกเตียงจนน็อคขึ้นมาทำไง มึงจะบริจาคสมองตัวเองให้ลูกมึงมั้ย ตอบคุณม๊าจอมปากหมาคนเดิมกลับมาเสียทีหลังจากที่ (ตอแหล) อ่อนแอมานาน ._.

                “โห นี่ผัวมึงนะ พูดจาให้มันเพราะๆ หน่อยเด๊ะ” สุดท้ายไอ้ป๊าก็พูดแบบมีเสียงออกมาจนได้ ทำเอาลูกชายที่นอนอยู่ตรงกลางถึงกับงง แต่นิทานภาพก็ดึงดูดความสนใจของเขาได้ดีกว่า

                “นี่ก็กวนตีนละ คิดว่าเป็นผัวแล้วจะได้ยกระดับรึไงฮะ เป็นเพื่อนกันมาสิบล้านชาติอย่ามาให้กูตอแหลมุ้งมิ้งภายในไม่กี่วันได้มะ แล้วไอ้ตอนนั้นที่กูเรียกมึงว่าชุนแถมทำตัวงุ้งงิ้งคือโหมดอ่อนแอไง ตอนนี้กูเข้มแข็งสัส ตั๊นหน้ามึงก็ยังได้เอาเด้” แบคฮยอนด่าน้ำไหลไฟแลบจนคนฟังชักจะเคือง

                “มึงตั๊นหน้ากูได้ แต่มึงก็เสียบกูไม่ได้อยู่ดี” ชานยอลพูดจบพลางทำหน้าแบบ ไม่รู้สินะใส่คนตัวเล็กอีกต่างหาก 

                “ร... เรื่องนั้น! O / / / / / O ฟัค” คนฟังทำได้แค่สบถพร้อมเขินหน้าแดงก่ำ

                “เสียบอะไรกันหยอคับ” เด็กน้อยฮุนฮุนที่แอบฟังบทสนทนามานานเงยหน้าจากนิทานภาพ และครั้งนี้นิทานภาพก็ไม่สามารถดึงความสนใจได้อีก เพราะเรื่อง เสียบๆมันน่าสนใจกว่า

                “ส... เสียบแฟลชไดร์ฟน่ะฮุนฮุน - / / / / / / - นอนดีกว่าเนอะ เอ่เอ๊~” ม๊าบุ๊ควางหนังสือไว้หัวเตียงก่อนจะเอนตัวลงนอน หยิบนิทานภาพในมือฮุนฮุนมาถือไว้ ไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไหนดี...


                งั้นเขวี้ยงใส่หัวผัวมันเลยละกัน รำคาญแม่ง


                “โอ๊ย! นี่หาเรื่องใช่มะ มีปัญหาอย่างงี้ต้องโดนจูบนะ -.,-” อิผัวนี่ก็หาเรื่องแต๊ะอั๋งตั้งแต่เด็กยันแก่

                “เย่ๆๆ ฮุนฮุนเป็นเด็กมีปัญหาแหละปะป๊า >O< จุ๊บฮุนฮุนก่อนนนนน~” นังเด็กน้อยก็ช่างไม่รู้อะไรซะเลย แต่สุดท้ายปะป๊าก็ก้มลงไปหอมแก้มราตรีสวัสดิ์ลูกชาย แต่สายตายังจับจ้องไปที่ริมฝีปากเล็กของหม่าม๊าอยู่นะพูดเลย 

                “สมน้ำหน้า!! เอ้อ อิห่า... นอนได้ละ ไม่ต้องมามอง” หม่าม๊าทำเป็นหยาบคายกลบเกลื่อน ก่อนจะตะแคงตัวหนีไปอีกทาง 

                “อ้อ หม่าม๊าๆ ฮุนฮุนเสียบแฟลชไดร์ฟเป็นแหละ เดี๋ยวฮุนฮุนสอนให้วันหลังนะคับ” เด็กน้อยกระตุกชายเสื้อเบาๆ ก่อนจะเริ่มปิดตาลง

                “เดี๋ยวป๊าสอนม๊าเอง ฮุนฮุนสอนเรื่องเสียบแฟลชไดร์ฟไม่ได้นะ เคระเคระ~” นังป๊าหัวเราะกวนตีนตบท้ายอีกต่างหาก

                “พี่ฮานฮานสอนฮุนฮุนเสียบแฟลชไดร์ฟแหละ... พี่ฮานฮานเก่งมั่กๆ เยย...” เสียงเล็กงัวเงียพึมพำออกมาเบาๆ แต่ประโยคที่พูดนี่ทำเอาป๊ากับม๊าเกือบหัวใจวายตายนะลูกนะ T_T

                “ดีแล้วลูก แต่บางทีเราก็ควรจะสอนพี่ฮานฮานเสียบแฟลชไดร์ฟบ้างนะ อย่าถูกสอนฝ่ายเดียว กร๊ากกกกกกกกกก” พอแกพูดอะไรทุเรศเสร็จก็เอื้อมมาหยิกก้นเมียเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว คนโดนหยิกก็ได้แต่หันหลังให้ กลัวหันหน้ามาแล้วจะทนไม่ไหว อาละวาดใส่มัน =_=

                “งื้อ อย่าหยิกก้นหม่าม๊าเจ่ะ...” เด็กน้อยที่แอบเห็นละเมอพูดเบาๆ ก่อนจะหลับไปในเวลาอันสั้นตามประสาเด็กอนุบาล


                ... 


                คนเป็นแม่พลิกตัวกลับมา... ก็เจอไอ้ป๊าบ้านอนลืมตาแป๋วทั้งที่ตอนนี้ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว


                “ทำไมยังไม่นอน ปกติเป็นเด็กอนามัยนอนสี่ทุ่มไม่ใช่ไง๊” แบคฮยอนเอ่ยปากถามกวนๆ 

                “ก็ใช่... แต่ตอนนี้เป็นหัวหน้าครอบครัวละ รอลูกรอเมียหลับก่อนแล้วค่อยหลับ”

                “โอ้โห พอพวกกูหลับจะได้หนีเที่ยวใช่มะ!!

                “ก็แค่อยากเห็นว่ามึงนอนหลับสบายดี ไม่ฝันร้ายอ่ะ มึงก็มองกูเป็นคนเลวละหรอ (._.)” อิผัวทำเป็นปากยื่นปากยาว น้ำเสียงนี่งอนเง้ากระเส่ากระสอดมากๆ (สำนวนเหี้ยไรเนี่ย)

                “ป... เปล่านะ O_O;” แล้วก็ต้องมีคนโง่ๆ บื้อๆ คนนึงตกหลุมพรางมันจนได้ =__= “แค่แซวเล่นเฉยๆ อ่ะ T^T อย่าโกรธนะชุน ดีกันนะ ยื่นหน้ามานี่เร็ว”


                ฮั่นแหน่ะ! จะง้อกูทีไรเรียกกูชุนทุกที ฟินนะบอกตรงๆ 5555555555555


                “ไร” ทำเป็นแกล้งงอนต่อนิดหน่อย แต่ก็ยอมยื่นหน้าไปให้แต่โดยดี แม้ฮุนฮุนจะนอนคั่นกลางอยู่ก็เถอะ


                จุ๊ บ .


                ถึงเสียงจุ๊บจะไม่ดังเท่าเสียงระเบิดของภูเขาไฟ

                แต่สัมผัสเบาๆ ก็กระเทือนไปถึงดวงดาว


                “ดีกันนะ พรุ่งนี้อยากทำอะไรเดี๋ยวจะตามใจทุกอย่างเลย” คนตัวเล็กจุ๊บที่ริมฝีปากของเขาก่อนจะพูดง้อนิดหน่อย เล่นซะไปไม่ถูกเลย...

                “อื้อ พรุ่งนี้อยากเสียบ...”

                “ห้ะ?”

                “เอ๊ย คืออยากเสียบแฟลชไดร์ฟไง อ... เออ - / / / - ก็แฟลชไดร์ฟไง วู้” พูดจบก็พลิกตัวหนีไปอีกทาง ทิ้งให้เมียตัวเล็กนอนเขินอยู่คนเดียว


                เอาวะ คืนนี้ต้องข่มตานอนให้ได้ T___T!!!



**********



                “ฮุนฮุนอยากไปนอนที่ห้องนอนฉ่วนตัว”

                “ส่วนตัวลูก” 

                “ฉ่วนตัว” เด็กน้อยพูดไม่หยุดขณะที่กำลังนั่งรอหม่าม๊าทำแซนวิช เอาจริงๆ แบคฮยอนก็ไปซื้อเครื่องครัวมาบ้างแล้วแหละ พวกกระทะ หม้อ แม้กระทั่งเตาแก๊สก็ไปซื้อมาด้วย พูดง่ายๆ คือจะหัดทำกับข้าวให้ลูกกับผัวกินน่ะ =_=


                แต่ตอนนี้กินแซนวิชไปก่อนนะฮุนฮุน T0T


                “ฮุนฮุนอยากนอนที่ห้องส่วนตัวทำไมลูก นอนกับป๊าม๊าไม่ดีหรอ” ปะป๊าเดินเข้ามาคุย ก่อนจะหอมแก้มลูกชายหนึ่งที

                “ม่ายดี~ เพราะปะป๊าไม่มีโอกาสสอนหม่าม๊าเสียบแฟลชไดร์ฟง่ะ”

                “แค่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” จู่ๆ หม่าม๊าก็สำลักน้ำลายตัวเองขึ้นมาซะงั้น ดูปะป๊าสิ... ปะป๊าแกแค่หน้าแดงเฉยๆ เองนะ

                “ฮุนฮุนรู้หรอว่าเสียบแฟลชไดร์ฟแปลว่าอะไร” ปะป๊าพยายามทำเสียงเข้มไว้ก่อน

                “ก็แปลว่า...”

                “...”

                “การเอาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ขนาดหนึ่งนิ้วที่สามารถเซฟไฟล์ได้ไปเสียบใน...”


                โอเค ลูกไม่รู้ พอ จบ 555555555555555555555555555555555555


                “อย่างนั้นฮุนฮุนไม่ต้องไปนอนห้องนั้นก็ได้ เดี๋ยวป๊าสอนม๊าบนโซฟาเอา จะห้องน้ำหรือระเบียงบ้านก็ได้ บนโต๊ะกินข้าวยังสอนได้เลยฮุนฮุนเอ๊ย 5555555555555555555” อิป๊าหัวเราะเสร็จก็คว้าเอาคุณภรรยามาแนบไว้ข้างตัว พลางก้มลงไปหอมแก้มแก้เขิน แหม่... พูดอะไรก็ไม่รู้เนอะเรา (._.)

                “อ้าว แล้วในห้องน้ำมีซีพียูให้เสียบหรอคับปะป๊า O_O

                “ก็ม๊าเป็นซีพียู แล้วป๊าเป็นแฟลชไดร์...”

                “โอ๊ยพอๆๆๆๆ เลิกคุยกันเรื่องแฟลชไดร์ฟได้ละ - / / / -!!” หม่าม๊ามิอาจทนได้ ใจคอจะพูดเรื่องเสียบแฟลชไดร์ฟกันอีกนานมั้ย “ถ้าฮุนฮุนอยากได้ห้องส่วนตัวเดี๋ยวหม่าม๊าทำให้ก็ได้จ้ะเด็กดี วันนี้ไปซื้อเตียงกันนะ”

                “เย่ะๆ >_<! ชื้อเตียงๆ”

                “ซื้อเตียงลูก”

                “ชื้อเตียง” เด็กน้อยเถียงเอาจนหยดสุดท้ายก่อนจะพูดต่อ “ฮุนฮุนไม่รู้ว่า ถ้าพี่ฮานฮานย้ายมาที่นี่แล้วพี่ฮานฮานจะมีห้องนอนอ๊ะป่าว ฮุนฮุนก็เลยจะยอมนอนเตียงเดียวกับพี่ฮานฮานเอง ฮึบๆ >_<!

                “แหม เสียสละจังนะลูกกู =____=” แบคฮยอนบ่นเบาๆ เริ่มเห็นลางว่าจะมีลูกเขยชื่อย่อว่าHH

                “เอาหน่า แต่ปะป๊าแนะนำให้ฮุนฮุนขึ้นคร่อมพี่เค้าก่อนดีกว่...”

                “อีชุน!!!!!!!!!” และสุดท้ายเมียก็ทนกับความสถุนของคุณผัวไม่ไหว ถึงขั้นต้องตะโกนชื่อมันเป็นการเตือนสติ

                “พี่ฮานฮานบอกว่า ฮุนฮุนตัวเล็ก... ห้ามขึ้นคร่อมพี่ฮานฮาน”


                ...


                “บุ๊ค... กูว่าเราต้องกีดกันไอ้ฮานฮานละ แม่งล้างสมองลูกกูจนเป็นเคะไปละสัส T_T

                “ก็ดีแล้วหนิ... ฮานฮานก็ดูปกป้องลูกเราดีไม่ใช่หรอ อิตอนรถชนอ่ะ เท่เหี้ยๆ”

                “นี่ไม่ต้องไปอวยมันเลยนะ มึงยอมให้ลูกเราไปเคะให้ลูกไอ้โด้กับจงอินมันรึไง๊ TOT กูคนนึงแหละไม่ยอม เดี๋ยวกูจะซื้อเตียงแคบๆ เอาให้ฮุนฮุนนอนตกเตียงไปเลย มันจะได้มานอนไม่ได้ หึหึ”

                “เอ้า ไม่ใช่ว่าเค้าจะได้นอนเบียดกันบนเตียงแคบๆ หรอ *__*

                “สัสเด๊ยยยยยยยยยยยยยยย”



**********



                ไม่นานนัก สามพ่อแม่ลูกก็เดินมาถึงห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านที่เดิม มือทั้งสองข้างถูกจับไว้โดยป๊ากับม๊าคนละข้าง และกำไลแพตตินั่มที่ตอนนี้ถูกแยกจากกันโดยลูกชาย... 


                ก็เหมือนจะถูกเชื่อมด้วยเขาเช่นกัน

 
                “ฮี่ฮี่~ ชาหนุกๆๆๆ” 

                “สนุกลูก” หม่าม๊าคนดีมักจะคอยแก้คำผิดให้ลูกทุกครั้ง ก็แหม... กลัวว่าลูกจะไปทำหน้าแตกใส่เด็กผู้ชายตอนป.หนึ่งเหมือนตัวเองน่ะสิ T^T

                “ฮุนฮุนอยากได้เตียงลายเบนเทน” เด็กน้อยพูดขณะที่เดินผ่านร้านขายเฟอร์นิเจอร์ 

                “เรื่องลายเตียงน่ะไว้ก่อนนะลูก เอาขนาดเตียงก่อน”

                “ก็ต้องเอาเตียงหย่ายๆ เพราะพี่ฮานฮานตัวใหญ่ม้ากกกกกกกกกกก” ฮุนฮุนพูดพลางทำท่าโอบรอบตัวพี่ฮานฮานให้ดูอีก เล่นเอาหนวดเสือของคุณพ่อยังหนุ่มกระตุกขึ้นมาซะเฉยๆ

                “เอาเตียงสองชั้นมั้ยฮุนฮุน” คุณพ่อที่คิดเรื่องเตียงมาตลอดทางแกล้งเบี่บงเบนความสนใจเรื่องฮานฮาน ก่อนจะชี้ไปที่เตียงนอนสูงๆ แน่นอนว่าเด็กน้อยวัยใสต้องวิ่งปรี่ไปหาอยู่แล้ว

                “ฮุนฮุนจะเอาอันนี้ๆๆๆๆๆๆๆ”

                “เปลี่ยนไม่ได้แล้วนะลูก”

                “จั้ยๆๆ ไม่เปลี่ยนๆๆๆ”

                “ผมซื้ออันนี้ครับ” คุณพ่อขี้หวงรีบยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานอย่างไม่รีรอ กลัวลูกชายคนดีไปเห็นเตียงใหญ่บิ๊กเบิ้มแล้วเปลี่ยนใจขึ้นมานี่ซวยเลย

                “ป๊าๆ ฮุนฮุนอยากได้ผ้าห่มสกรีนลายพี่ฮานฮานได้ป่าว”


                ผมว่าลูกผมกู่ไม่กลับแล้วล่ะครับ TT_____________TT


                “เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที” ปะป๊าตอบอย่างไม่ใส่ใจ แต่สายตาเหลือบไปเห็นเซทผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนสีขาวสะอาดตา 


                หวังว่าฮุนฮุนจะไม่เห็นนะ...


                “ฮุนฮุนดูสิลูก มีผ้าปูกับปลอกหมอนสีขาวด้วย จะได้เอาไปสกรีนพี่ฮานฮานได้ไง ดีมั้ย >__<” ชิบหาย เมียที่ยืนอยู่ข้างๆ เสือกเป็นตัวแนะนำเฉย

                “ดีคับดี ฮุนฮุนอยากได้อ่ะ เอาไปสกรีนนะม๊านะ”

                “แต่พวกเราไม่มีใครมีรูปฮานฮานมันเลยนะลูก” ป๊าชุนรีบใช้โอกาสนี้หาข้ออ้างมาบอกลูก

                “อ๋อ ไม่ต้องห่วงนะปะป๊า ฮุนฮุนมีเฟสบุ๊ค มีรูปพี่ฮานฮานเต็มไปหมดเบย พอดีพี่ฮานฮานชาหมักให้ฮุนฮุนง่ะ”

                “สมัครลูก”



 **********



                ไม่นานนักชานยอลก็มีบัตรนัดรับสินค้ากับ ปลอกหมอนและผ้าห่มสีขาวอยู่ในมือ ใบหน้างองุ้มเพราะไม่ได้ดั่งใจ ลูกก็จะเคะ เมียก็เคะไปแล้ว ชีวิตรอบข้างทำไมมีแต่เคะ


                “ขอผมเปิดเฟสบุ๊คหน่อยคับ” เซฮุนรีบวิ่งเข้าไปบอกเจ้าของร้านพลางวิ่งไปที่โต๊ะคอมอย่างรู้งาน ร่างสูงวางหมอนและผ้าห่มอย่างหงุดหงิดใจบนเคาท์เตอร์ก่อนจะสั่งสินค้า

                “ลูกผมจะสกรีนรูป พี่ชาย บนผ้าห่มกับปลอกหมอนอ่ะครับ แต่รูปพี่ชายเค้าอยู่ในเฟสบุ๊ค”

                “อ๋อได้ค่ะ ถ้างั้นจะจัดการให้ หนูเลือกรูปชัดๆ เลยนะจ๊ะ” นังคนขายก็สนับสนุนความเคะของลูกเหลือเกิน ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะห้ามเล้ย พูดไปดิว่ามีกฎหมายห้ามสกรีนหน้าคนที่ชื่อขึ้นต้นด้วยตัว H อ่ะ พูดดิพูด

                “ชุน...” เอาละ อีเมียข้างๆ เรียกชื่อแบบนี้คงเป็นลางร้ายแน่ๆ จะขออะไรอีกก็ไม่รู้ “ขอทำสกรีนชุนบนผ้าห่มกับปลอกหมอนได้ป่าวง่ะ เผื่อตื่นมาไม่เจอกันจะได้เห็นชุนก่อนเลยไง”


                ...


                “แล้วถ้ากูตื่นมาไม่เจอมึงบ้างนี่ทำไง” เขาแกล้งถามลองเชิง

                “ก็... ไม่เห็นเป็นไรหนิ” แบคฮยอนตอบใสซื่อ ชุนตื่นมาไม่เจอเขาก็คงไม่เป็นไรนี่นา

                “โห ไม่เป็นไรได้ไง” ร่างสูงพูดจบก็หยิกแก้มยุ้ยๆ นั้นอย่างหมั่นไส้ “เป็นดิเป็น ไม่เป็นกูไม่รู้หรอก”

                “งื้อ แล้วให้ทำไงอ่ะ...” 

                ...

                “สกรีนรูปกูลงไปด้วย”



**********



                หลังจากที่ช้อปปิ้งกันเสร็จเรียบร้อย ชานยอลก็พาเมียและลูกเดินกลับไปที่คอนโด แต่ไม่ได้พาขึ้นห้องเสียทีเดียว เพราะพาไปที่ลานจอดรถแทน


                “จะไปไหนเนี่ย ข้าวของพะรุงพะรัง” แบคฮยอนหันมาถาม สภาพคุณสามีที่หอบผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนอย่างละสองชุดด้วยตัวเองนี่น่าสงสารเหลือเกิน เขากับฮุนฮุนบอกว่าจะช่วยถือแต่มันก็ไม่ยอมให้ช่วย

                “ไปหาป๊ากูกับพ่อแม่มึง” เขาพูดก่อนจะแอ่นก้นให้แบคฮยอนหยิบกุญแจรถในกระเป๋ากางเกง แต่ก็มิวายโดนเมียหยิกก้นแก้แค้นจากเมื่อคืน

                “ฮึ่ย! กว่าจะไปบอกพวกเค้าก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์ละนะ ไม่โกรธแย่หรอเนี่ย โดยเฉพาะอีจีฮเย =_=” แบคฮยอนเกาหัวก่อนจะเปิดรถฝั่งคนขับ ตั้งใจจะขับรถให้เพราะเห็นว่าคนตัวสูงถือของหนักมาทั้งวัน

                “ช่างหัวไอ้จีมันเหอะ ว่าแต่จะขับไหวหรอจ๊ะน้องสาว” สามีที่เข้ามานั่งที่ฝั่งผู้โดยสารพร้อมลูกชายอยู่บนตักเอ่ยปากแซว ปลายนิ้วหยิกแก้มนิ่มอีกตามเคย

                “ไหวดิแหม”

                “เอารางวัลเป็นอะไรดี... ช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปดีปะ?” ชานยอลเอ่ยปากถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง แต่คนฟังที่เริ่มสตาร์ทรถกลับส่ายหน้าและหัวเราะอายๆ

                “หอมแก้มกูทีนึง”

                “โห ปากกูนี่มีค่าเท่าช็อกปั่นเพิ่มวิปของมึงเลยอ่อวะ ดีใจเหี้ยๆ 5555555555555555” คนตัวสูงหัวเราะลั่นรถ ก่อนจะยื่นหน้าไปฝังปลายจมูกที่แก้มนิ่ม

                “โฮ้ย มีค่ามากแค่ไหนไม่รู้ตัวเองอีก...” เสียงเล็กพึมพำเบาๆ ขณะที่สายตาจับจ้องตรงไปยังถนน

                “เฮ้ย พูดไรวะเมื่อกี้” ชานยอลหันมาหยิกแก้มบังคับให้พูด แต่คนตัวเล็กก็ไม่กล้าพูดอีกรอบหรอก มันน่าอาย T / / T

                “ตะกี้หม่าม๊าพูดว่า โฮ้ย มีค่ามากแค่ไหนไม่รู้ตัวอีกคับปะป๊า >O<!!” และแน่นอนว่าเรดาร์หาความฟินก็ได้ยินเสมอ

                “...” ปะป๊าที่ตอนนี้เงียบกริบได้แต่หันหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง


                เอ้ออออออ เมฆสวยเนอะ - / / / / / / / / / / / / / -


                “เวร... ที่ไม่กล้าพูดเสียงดังเพราะกลัวมันโกรธนี่ไง๊ T^T เงียบไมอ่ะหื้ม...” แบคฮยอนหันหน้ามามองสามีสลับกับมองท้องถนนอย่างเป็นกังวล

                “ขับต่อไป (. / / / / / / / .)”

                “เฮ้ย หน้าแดงด้วยอ่ะ โกรธอ่อ”

                “หม่าม๊าคับ” น้องฮุนฮุนผู้กร้านโลกมิอาจทนความใสซื่อของหม่าม๊าตัวเองได้ “ถ้าใครหน้าแดงไม่ยอมพูดจาแบบนี้แปลว่าเค้าเขินอยู่คับ =__=

                “อ่ะหรอ...” หม่าม๊าที่รู้ความจริง (ซักที) ถึงกับรีบหันไปมองที่ถนนเหมือนเดิม แหม ก็ไม่รู้นี่นา ไม่เคยมีความรักมาก่อนนี่หว่า...
                

                เดี๋ยว
                แล้วลูกกูรู้ได้ไง


                แต่ไม่ต้องรอให้หม่าม๊าหรือปะป๊าฉงนใจ เพราะฮุนฮุนพร้อมบอกอยู่แล้วกั๊บ


                “พอดีพี่ฮานฮานเคยเป็นแบบนี้น่ะคับ ฮุนฮุนเลยถาม พี่ฮานฮานก็บอกว่าพี่เค้าเขิน เขินอะไรก็ไม่รู้อ่ะ แค่ฮุนฮุนหอมแก้มพี่ฮานฮานเอง”

                “คราวหลังลูกก็ขึ้นคร่อมมันเลยนะ หึหึ” อิป๊าที่ฟังแล้วกัดฟันกรอดจึงรีบแนะนำหนทางเหี้ยๆ ให้

                “แต่พี่ฮานฮานบอกว่า ฮุนฮุนตัวเล็...”

                “ตอนเด็กๆ ป๊าก็ตัวเล็กกว่าม๊า... ตอนนี้เป็นไง วะฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คร่อมเอาคร่อมเอา” ชานยอลผู้ถือว่าตัวเองเป็น แฟลชไดร์ฟก็รีบอวดใหญ่

                “คร่อมเหี้ยไร เงียบๆ ไปเลย ก่อนกูจะกดปุ่มเหวี่ยงมึงออกจากรถ”

                “โอ๋วววววววววววววววว~ จะเหวี่ยงเค้าจริงๆ อ่อออออ”

                “สัส ใครมันจะไปเหวี่ยงลงโว้ยยยยย! = / / / =



                ...


                ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงหลุมศพ ปาร์คชานโฮอันคุ้นเคย เด็กน้อยวิ่งนำโร่ไปก่อนเพราะจำหลุมศพได้เป็นอย่างดี ส่วนสองสามีภรรยาก็เดินจูงมือกันไปเงียบๆ


                “ป๊าหวัดเด”

                “ป๊าหวัดเด” แบคฮยอนหลบหน้าไปทางอื่นแก้เขินก่อนจะพูดต่อ “พ่อสามีนี่ต้องไม่ต้องเรียกแล้วปะว่าพ่อใคร กรั่กๆๆๆ”

                “ส่วนผม... ฮุนฮุนคนเดิมคับคุณปู่ ลูกชายของป๊าชุนกับม๊าบุ๊ค” เด็กน้อยทำความเคารพแบบเกาหลีดั้งเดิม ก่อนจะหันมาแกะมือป๊ากับม๊าที่จับกันอยู่อย่างหมั่นไส้

                “เฮ้อ” ชานยอลถอนหายใจแก้เขินก่อนจะพูดกับหลุมศพต่อ “ป๊า... เป็นแล้วนะ เป็นจริงๆ ทั้งหัวใจแล้วนะ ได้ยินปะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

                “แหะๆ ฝากตัวด้วยครับ” แบคฮยอนก้มลงคุกเข่าแบบเกาหลีดั้งเดิมช้าๆ ด้วยความเคารพ คนตัวสูงมองตามพร้อมรอยยิ้มมุมปากและหันไปทางหลุมศพต่อ

                “ป๊า เรามีความลับกันเนอะ” ประโยคที่ว่าทำเอาคนที่กำลังคำนับอยู่บนพื้นถึงกับชะงัก

                “...”

                “ป๊าแกล้งไล่ชุนออกจากบ้าน เพื่อให้ชุนมาอยู่กับใครบางคนเนอะ” ร่างสูงพูดจบก็ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ แบคฮยอนที่ตอนนี้หันมามองหน้าเขาด้วยความสับสน

                “...”

                “เพราะชุนไปขอว่าอยากอยู่กับบุ๊ค ป๊าก็เลยแกล้งไล่ชุนออกจากบ้าน บุ๊คมันจะได้สงสาร ยอมมาอยู่กับชุน... แต่ป๊าก็แอบส่งเงินมาให้ชุนตลอดเลย”

                “ห้ะ...”

                “ขอบคุณมากครับ” ชานยอลก้มลงไปคำนับกับพื้นด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและโอบเอวคนที่นั่งข้างๆ ไว้แน่น

                “...”

                “ป๊าเฝ้าภาวนาให้ชุนสมหวังในความรักไวๆ... แต่ป๊าก็ไม่มีโอกาสได้เห็น”

                “...”
 
                “ได้เห็นแล้วนะป๊า... ชุน... ชุน...” คนตัวสูงเริ่มเบะปาก จู่ๆ น้ำตาก็คลอขึ้นมาซะอย่างนั้น


                น้อยคนที่จะเข้าใจว่า การร้องไห้เพราะความดีใจจนล้นอกมันเป็นยังไง


                “ชุนทำสำเร็จแล้วครับ” สายตาอบอุ่นของคนตัวเล็กทอดมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่พยายามกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายไว้เต็มที่ มือเล็กขยี้หัวคนตัวสูงเบาๆ ก่อนจะยิ้มจนตาปิด


                อิห่าชุนนี่แม่งปัญญาอ่อนชะมัดยาด 

                แต่ทำไมกูต้องอยากร้องไห้ตามมันด้วยล่ะ O_O;


                “...”

                “จะทำเหมือนที่ป๊าสอนไว้ก่อนตาย ป๊าไม่ต้องห่วงนะ” ร่างสูงสูดน้ำมูก ดูซิ อายลูกตัวเองมั้ย นั่งจ้องตาแป๋วเชียว ป่านนี้แกคงจะเก็บพล็อตไปแต่งนิยายได้หลายเล่ม

                “ป๊าสอนไว้ว่าไรหืม” แบคฮยอนเงยหน้ามอง ก่อนจะบีบปลายจมูกแดงก่ำนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว
                

                คนตัวสูงไม่กล้าพูด ประโยคที่ป๊าสอนมันชวนอ้วกเกินไป T / / T
                

                “เร็วๆ ไม่งั้นฟ้องป๊านะ -^-” เออ โดนเร่งอีก 

                “ป๊าสอนว่า...”

                “...”

                “คบเพื่อนให้เล่นมุก คบบุ๊คให้เล่นลิ้น” มันพูดจบก็ชะโงกหน้าเข้ามา กะจะเล่นลิ้นต่อหน้าหลุมศพพ่อตัวเองเต็มที่

                “อิห่า -O- มันใช่เรื่องมั้ย แล้วป๊าจะไปสอนอย่างงั้นได้ไง กูไม่เชื่อ!” แบคฮยอนรีบกระถดตัวหนี ส่วนลูกชายตัวดีก็นั่งยองๆ หัวเราะร่า

                “เอาหน่า ป๊าสอนมาละกัน ไปละนะป๊า เดี๋ยวไปเล่นลิ้นต่อ กร๊ากกๆๆๆๆ” ชานยอลหัวเราะก่อนจะจูงมือลูกและเมียให้เดินกลับไปที่รถ คนตัวเล็กกระฟัดกระเฟียดนิดหน่อยแต่ก็ยอมกลับไปขับรถเหมือนเดิม

                ...

                ชานยอลที่มีเซฮุนนั่งอยู่บนตักเหม่อมองกลับไปที่หลุมศพนั้นอีกครั้ง มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะยิ้มเบาๆ เมื่อนึกถึงความหลังที่พ่อได้สอนเอาไว้...



            ถ้ารู้ว่าเค้ารัก... จงเคารพหัวใจดวงนั้นให้ดี เพราะนั่นหมายความว่าเค้าเลือกที่จะเมินคนพันล้านคนมารักเราคนเดียว



                ร่างสูงหันมามองหน้าคนตัวเล็กที่กำลังขับรถด้วยความตั้งใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปเขี่ยที่แก้มนิ่มเบาๆ


                “ขอบคุณที่รักกูตอบนะ”

                “คิกๆ” คนที่กำลังขับรถหลุดหัวเราะออกมา ใครมันจะไปคิดว่าอีบ้าข้างๆ จะพูดจริงจังขนาดนี้ ไม่ใช่วันปีใหม่หรือวันครบรอบแต่งงานนะเฟร่ย

                “หัวเราะไร จริงจังนะสาส...”

                “ขอบคุณที่รักกูก่อนนะ :D ขอบคุณจริงๆ”


                เอ้ออออออ...... น่าย้ากกกกกกกกกกกกกก TwT



**********



                หลังจากที่ไปแจ้งข่าวกับพ่อกับแม่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว แบคฮยอนก็รีบเดินไปหาอีเพื่อนข้างบ้าน ความจริงพ่อแม่ของเขาก็ดูจะไม่ประหลาดใจเท่าไหร่นัก แค่ตบหัวลูกเขยแล้วด่าว่า ซัก-ที-นะ-ไอ้-ชุนแค่นั้นเอง -0-     

                “อีดอก ถ้าอีแรดอี้ชิงไม่ประกาศในไลน์กรุ๊ปกูก็คงจะไม่รู้สินะ” จีฮเยที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านรีบด่าทันทีที่เห็นชานยอลเดินประคองตัวแบคฮยอนมาอย่างทะนุถนอม

                “อะไรรรร ก็อยากมาบอกมึงด้วยตัวเอง” แบคฮยอนเองก็พอจะรู้เหมือนกันแหละว่ามันด่าเรื่องอะไร

                “ประคองกันมาอย่างนั้น ปั๊มลูกกันกี่สิบล้านรอบละคะ ขอถาม” 

                “อิห่า ยังเว่ย” ชานยอลรีบออกตัว 

                “ว้ายยยยยยยยยยยย O_O!! ยังอีกหรอยะ!? ชุน... มึงมีน้ำยาปะถามจริง =__=” จีฮเยมองหน้าคนตัวสูงด้วยความตกใจ แต่คนกร้านโลกอย่างนางก็หันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ

                “อิบ้า น้ำยามีเยอะเว่ย แค่ยังไม่ได้ใช้ เดี๋ยวไอ่บุ๊คมันขาถ่างก่อน”

                “ทุ-เรศ” เมียหันมาหยิกทีนึงก่อนจะหันไปหาจีฮเย “มึงงงงง อย่าโกรธกูนะ กูแค่อยากมาบอกมึงด้วยตัวเองจริงๆ”

                “แหมมมมมม ไอ้เรื่องนั้นกูไม่โกรธหรอก แต่กูโกรธที่กูกับอีโด้ช่วยเหลือมาสิบชาติแม่งไม่พัฒนาซักที พออีอี้ชิงมาแค่ชั่วโมงเดียวเสือกเข้าใจกันซะงั้น... นี่ กูโกรธตรงนี้ ฮึก T_T” จีฮเยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เอาเข้าจริงก็ไม่ได้โกรธขนาดนั้น แค่น้อยใจเฉยๆ น่ะ T^T

                “โหย ก็อี้ชิงมันเล่นแรงนี่หว่า ถ้ามึงแกล้งเล่นละครเหมือนมัน กูว่าบุ๊คก็ต้องมีหึงบ้างแหละ อย่าโกรธเลยน้าอีแรด~~~” ชานยอลพยายามง้อโดยการเข้าไปลูบหลังเพื่อนสนิทเผื่อมันจะหายโกรธ

                “กูจะหายโกรธก็ต่อเมื่อ...”
 
                “...”

                “อีแรดโด้กับอีเด็กดำแต่งงานกัน... หึ” จีฮเยยิ้มแสยะก่อนจะมองหน้าผัวเมียคู่ใหม่ปลามัน “พวกมึงมีปากไว้จูบกันอย่างเดียวรึไง ช่วยกันพูดเซ่!

                “ม... ไม่ได้มีปากไว้จูบกันอย่างเดียวซะหน่อยนะอีจี่ (. / / / / .)” แบคฮยอนเอามือจับปากเล็กๆ ของตัวเองเขินๆ พลางมองหน้าจีฮเยที่กำลังหงุดหงิดคนมีคู่ขั้นสุด 

                “อีดอกแบคอย่านอกเรื่องนะ!! เดี๋ยวกูก็จะไม่โสดแล้ว!! อีจื่อกำลังแนะนำเพื่อนมันให้กูอยู่...” จีฮเยกระแอมเบาๆ เพราะรู้สึกได้ว่าตัวเองกลายเป็นคนนอกเรื่อง ก่อนจะกลับเข้าประเด็นต่อ “เอ้อ...มึงรีบไปบอกให้พวกมันแต่งงานกันได้แล้ว ตามนั้น”

                “ถ้าพวกมันแต่งงานกันแล้วมึงจะหายโกรธใช่ปะจีฮเยของแบค *w*

                “เออ =___=” จีฮเยรับคำไปอย่างนั้นทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้โกรธอะไร แต่ถ้าไม่บอกแบบนี้คู่จงอินโด้ก็คงจะไม่กระเตื้องไปไหน

                “ความจริงกูก็เคยพูดแล้วนะ แต่โด้บอกว่าจงอินมันชอบพูดหยอกเล่นๆ ว่า แต่งงานกันๆอะไรอย่างเงี้ย มันเลยไม่อยากคิดไปเอง” แบคฮยอนอธิบาย เขาเข้าใจความรู้สึกของคยองซูดี ถ้าถูกพูดแบบนี้บ่อยๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

                “งั้นโทรไปหาอีเด็กดำสิ ให้มันขอดีๆ” แค่จีฮเยพูดจบ เสียงโทรศัพท์แบคฮยอนก็ดังขัดบทสนทนา

               
                - จงเอ้าท์ -


                “นี่ อยากคุยกับมึงอยู่พอดีเลยจงอิน” แบคฮยอนพูดอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ได้ยินเสียงปลายสายดูเร่งรีบแปลกๆ

                (พี่แบคคคคคคคค อยู่ไหนวะเนี่ยยยยยยยย)

                “อะไรของมึง =_=

                (ผมกำลังจะขอพี่โด้แต่งงาน แต่... แต่... แต่ โอ๊ยยยยยยยยย! พี่จงแดดันอยู่ด้วยเฉยเลยอ่ะ โผล่มาจากไหนไม่รู้อ่ะพี่แบคคคคค T0T) ประโยคแรกของจงอินทำเอาแบคฮยอนหูผึ่ง

                “อีจี่! มันกำลังจะขอโด้แต่งงานแล้วเว่ยยยย! แต่เพื่อนกูเสือกเข้ามาขวางอ่ะมึงๆๆ” แบคฮยอนลนลานอย่างบอกไม่ถูก รีบยัดมือถือใส่จีฮเยทันที

                “เฮ้ฮัลโหล!” จีฮเยพูดใส่มือถืออย่างเร่งรีบ ก่อนจะบอกแผนการณ์เหมือนแกเตรียมไว้ในหัวมาตลอดชีวิต “เดี๋ยวพวกกูไปหามึง แล้วจะกันเพื่อนอีแบคให้ เข้าใจปะ!!!!!? ขอนะเว่ยยยยยยยย ขอมันนะเว่ยยยย อย่าล้มเลิกไอสาสสสสสส”

                (ค... ครับ เข้าใจแล้วครับ) เหมือนปลายสายจะตกใจอยู่ไม่น้อย

                “เอออออออ!! พวกกูจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!! รอกูแป๊บเดียวเท่านั้น!!!!!” จีฮเยพูดจบก็วางสายและจับมือแบคฮยอนกับชานยอลให้กลับไปที่รถ

               
                - จงเอ้าท์ -

            “ไอสัสสสสสสสส โทรมาทำไมอีกห้ะ บอกให้รอก็รอเด้!!” จีฮเยกลายเป็นคนรับสายอีกครั้ง

                (คือ... คุณเป็นใครผมไม่รู้หรอกนะ แต่ว่า...)

                “...”

                (ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมอยู่ไหน)     

                “เอ้าอีนี่กวนตีนกูละ!!! กูชื่อจีฮเยเข้าใจปะ!? แล้วมึงอยู่ไหน บอกมาเดี๋ยวนี้เลย” จีฮเยเท้าสะเอว เห็นฮุนฮุนวิ่งมาจากในตัวบ้านอย่างเร่งรีบก็กวักมือหย็อยๆ

                (อยู่ที่สวนสาธารณะแถวคอนโดอ่ะครับ บอกพี่แบคเค้าแบบนี้นะ แค่นี้นะ)

                “เออแสส” จีฮเยวางสายก่อนจะก้าวขาขึ้นรถ ครั้งนี้ชานยอลกลายเป็นคนขับรถแทนเพราะแบคฮยอนเป็นคนขับรถช้ามาแต่ไหนแต่ไร อาจจะโดนจีฮเยด่าได้

                “จีฮเยมึงรู้จักจงอินด้วยอ่อวะ” แบคฮยอนหันไปถามเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งกระทืบเท้าด้วยความตื่นเต้น

                “ใครคือจงอิน”

                “เอ้า ก็คนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี้ไง”

                “เอ้าฟัค อีโด้เปลี่ยนผัวหรอ แล้วอีเด็กดำนั่นหายไปไหนละอ่ะ ไหนบอกรีเทิร์นกันละไง เอ้าอีดอก เงียบไมอ่ะ อธิบายให้กูฟังเซ่ นี่อีโด้ฮอทขนาดนี้เลยอ่อ” 



                ...

                RIP จีฮเย =________=
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น