2
B, you’ll be mom and I’ll be dad.
วันรุ่งขึ้น
“บุ๊ค
เดี๋ยววันนี้กูไปส่งมึงที่บริษัทนะ กูคงจะเลิกงานเร็ว
เดี๋ยวไปนั่งรอมึงที่สตาร์บัคส์” ชุนพูดก่อนที่จะเอากระเป๋าทำงานกับสูทของผมไปถือ
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเปิดประตูห้องออกไป
ก็เจอคิมจงอินในชุดสูทเนี้ยบ
และโด้ที่กำลังยืนหน้าเหวี่ยง -0-
“กูจะไปกับพวกมึง”
โด้พูดพลางคว้าแขนผมไว้ แต่ไอ่ชุนเสือกแกะออก
“รถกูเต็ม”
“เชี่ยชุน! โด้มันก็ไปกับพวกเรามากี่ปีละห้ะ มาตงมาเต็มอะไรวันนี้!” ผมหันไปด่าคนข้างๆ แต่ดูเหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านอะไร
“รถกูเต็มไปด้วยความรักของกูกับไอ่บุ๊ค
มึงอย่ามาเสือกเว่ยโด้” ชุนเดินนำลิ่วออกไป
ผมหันไปทำหน้าขอโทษใส่โด้ทีนึงก่อนจะรีบวิ่งตามมัน
...
“พี่โด้
รถผมยังไม่เต็มไปด้วยความรักเหมือนรถคันนั้นนะ... ผมรอพี่มาเติมเต็มอยู่ >__<”
“สัส จะอ้วก =[]=”
**********
หลังเลิกงาน
“แต๊ง”
ผมเดินเข้าไปในร้านสตาร์บัคส์ก็เจอชุนนั่งแดกกาแฟอยู่
พร้อมช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปครีมหนึ่งแก้ว
ผมหยิบแก้วนั้นมาดูดทันทีเพราะรู้ว่ายังไงก็เป็นของผม
“เดี๊ยวววว... ใครให้มึงแดก”
“อะ-ไร-นะ” ผมเงยหน้าถามมันทีละตัวให้ชัดเจน
แต่มันก็เท้าคางกับโต๊ะและถามต่อ
“ใคร-ให้-มึง-แดก”
“ก็นี่มันของโปรดกูในสตาร์บัคส์!
กูรู้ว่ามึงซื้อให้กู” ผมพูดหน้าตาย ไอ่ห่าชุนนี่ก็เป็นห่าไรไม่รู้
ความจำดีชิบหาย แบบว่า เวลาเข้าร้านอาหารสไตล์ไหน
มันรู้หมดแหละครับว่าผมชอบกินอะไร -0-
แปลกๆ เนอะ
“อ้อนกูก่อน ไม่งั้นไม่ต้องแดก”
มันพูดจบก็คว้าช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปที่รักของผมไปหน้าตาเฉย O[]O!!
แถมยังดูดเข้าไปคำใหญ่จนปาเข้าไปครึ่งแก้วละ!
“ต้องอ้อนยังไง
บอกกู ได้โปรด” ด้วยความอยากแดกจัด (และไม่อยากไปเสียตังค์ซื้อเอง)
ผมคงต้องทำวิธีนี้แหละ
“พี่ชุน~ บุ๊คอยากกินช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปจังเลย บุ๊คขอกินได้เป่า~”
“เป่าพ่อง -_-^
ฟรั๊ค... ทำไมต้องพูดจาระรื่นหูขนาดนั้นวะ บุ๊คอยากแดกครับพี่ชุน
เร็วๆ ครับ” ผมพยายามอ้อนมันในสไตล์ของตัวเอง แต่มันก็ยังไม่ให้คืน
“ดีๆ ครับน้องบุ๊ค
พูดกับพี่ชุนดีๆ ครับ”
“ดีๆ”
“ห้ามกวนตีนพี่ชุนด้วยครับสัส” โหไอ้เลว
ถ้าไม่ติดว่าเป็นคนขี้งกและชอบใช้เงินมึงเป็นชีวิตจิตใจละก็นะ กูเดินไปซื้อใหม่ละ
“พี่ชุนนนนนน~ บุ๊คอยากแดกช็อกโกแลตปั่นเพิ่มวิปชิบหายเลยครับบบบ
บุ๊คขอกินนะครับพี่ชุนนนน” นี่คงจะเป็นประโยคที่หวานหูที่สุดแล้วที่ผมเคยพูดกับมัน
-_-
“เชิญแดกได้ครับ”
มันยิ้มพอใจก่อนจะเอาช็อกโกแลตปั่นคืนให้ผม
ผมรับมาเหมือนเด็กได้ขนมก่อนจะดูดอย่างสบายใจ แต่บังเอิญเหลือบไปเห็นเอกสารแผ่นหนึ่งที่ไอ่ชุนมันนั่งอ่านมานานแล้ว
“แล้วนั่นอะไร”
“กำหนดการเข้าค่ายของเด็กอนุบาลสองน่ะ
กูต้องไปด้วย แถมนอนค้างคืนนึงอีก กูเลยจะมาบอกว่ามึงคงต้องไปแล้วแหละ”
“อือๆ” ผมตอบตกลงทันที ก็แหม...
ใครมันจะไปนอนคนเดียวได้วะ ไอ่ชุนไปไหนผมต้องไปด้วยตลอดอ่ะ
ขนาดมันไปนอนเข้าค่ายสมัยมหาลัยผมยังต้องขอเข้าไปเสือกด้วยเลย
บางทีค่ายไหนที่กลับบ้านได้มันก็จะกลับมานอนเป็นเพื่อนผม
แล้วตอนเช้าก็จะกลับไปที่ค่ายใหม่
แปลกๆ เนอะ
แต่ก็เอาเถอะ
ผมคิดว่ามันคงอยากจะตอบแทนเรื่องที่ผมอุตส่าห์ออกมาจากอ้อมอกพ่อแม่แล้วมากัดก้อนเกลือกินกับมัน
ก็เลยยอมมานอนด้วยโดยไม่ได้คิดอะไรน่ะๆๆๆๆๆๆๆ
“กูบอกจงอินไปละนะว่ามึงจะหยุดงาน”
“เออดีละ”
“แต่มันบอกว่า มันจะไปด้วย
และมึง... ก็ต้องลากโด้ไปให้ได้
ไม่งั้นมันจะเขียนรายงานความประพฤติว่ามึงหยุดงานมาหนึ่งเดือน =_=” ชุนพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ทั้งที่กูไม่ได้หยุดงานหนึ่งเดือนซะหน่อย TTOTT
“ไอ่เด็กเวรนี่จะกวนตีนกูมากไปละ”
“อย่างน้อยๆ มันก็จะจีบโด้ดีๆ
แล้วนะ ถึงมันจะเหี้ยใส่มึงก็เหอะ” ชุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เออๆ เดี๋ยวกูจะลากโด้ไปด้วย”
**********
อีกไม่กี่วันถัดมา
ผมกับชุนก็ต้องเก็บกระเป๋าเดินทางเตรียมตัวไปค่ายเด็กอนุบาลแล้ว
แน่นอนว่าโด้ตกลงทันทีที่ผมชวน เพราะผมไม่ได้บอกว่าจงอินจะไปด้วยไงล่ะ -O-
และพวกเราก็กำลังอยู่ที่โรงเรียน เตรียมตัวขึ้นรถบัสไปค่ายที่ชายหาดแฮอึนแด
เมืองปูซาน
“เอาล่ะเด็กๆ >___<
พี่แบคฮยอนกับพี่คยองซูซื้อช็อกโกแลตมาฝากคนละอันนน
รับแล้วต้องทำไงก่อน?”
“พูดว่าขอบคุณครับ / ค่ะ!!”
“ดีมากกกกกกก” ผมกล่าวชมเด็กๆ
ก่อนจะยืนแจกช็อกโกแลตกับโด้อยู่ที่ประตูรถ
เป็นการหลอกล่อให้เด็กขึ้นไปด้านบนรถไวๆ ทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส...
แต่ทำไมผมไม่เห็นเซฮุน...
“ชุน!
เซฮุนอ่ะ?” ผมตะโกนเรียกชุนที่ยืนคุยอะไรดูเป็นการเป็นงานอยู่
มันหันมองรอบตัวก่อนจะบอกผมว่าไม่รู้
“โด้ แจกไปก่อนนะ กูไปตามหาเซฮุนก่อน”
ผมพูดพลางวิ่งออกตามหาแถวตึกเรียนเด็กเล็ก
ก็ต้องเจอเซฮุนนั่งกอดเข่าอยู่ในหลืบห้องเรียน...
“มานั่งทำไมตรงนี้ครับ
ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ นะ” ผมเดินเข้าไปหาก่อนจะหอมแก้มเซฮุนเป็นการปลอบโยน
เด็กน้อยมองผมตาปริบๆ ก่อนจะเบะปาก
“ฮุนฮุนไม่อยากไป ฮุนฮุนกลัวไม่มีกลุ่มอยู่”
เด็กตัวจ้อยพึมพำในลำคอ จริงอย่างที่เขาว่า...
ไปเข้าค่ายแบบนี้ต้องจับกลุ่มอยู่เสมอ และเมื่อเซฮุนไปเข้ากลุ่มไหนก็จะโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวตั้งแต่อนุบาลหนึ่งละ
=__=
“ฮุนฮุนก็อยู่กลุ่มเดียวกับพี่แบคฮยอนไงครับ”
“แล้วครูปาร์คล่ะครับ?”
เด็กน้อยเงยหน้าถามด้วยแววตากลมโต
“ช่าย
ครูปาร์คก็อยู่กลุ่มเดียวกัน”
“งั้นกลุ่มเรามีกันสามคนพอนะครับพี่แบคฮยอน”
มือป้อมๆ เล็กๆ ของเซฮุนจับนิ้วโป้งของผมไว้ ผมจึงยิ้มให้อย่างอารมณ์ดีก่อนจะตอบ
“ได้ครับ” ผมอุ้มเด็กน้อยขึ้นก่อนจะพาเดินไปที่รถบัส
ชุนยิ้มบางๆ ก่อนจะขยี้หัวผม
“ทำดีนี่หว่า”
“เชี่ย ไม่ต้องมาชมกู”
ผมสะบัดหัวแรงๆ เป็นการบอกให้มือมันออกจากหัวผม
“เออบุ๊ค นี่ครูชเวจินรีนะ
เป็นครูประจำชั้นอนุบาลสอง ครูจินรีครับ นี่บยอนแบคฮยอน เพื่อนสนิทผม”
ชุนแนะนำผมให้รู้จักกับครูสาวแสนน่ารัก ผมยิ้มให้ก่อนจะสวัสดี และครูจินรีเองก็ดูเป็นคนมีอัธยาศัยดีเช่นกัน
“แหม
ได้ยินกิตติศัพท์จากเด็กๆ มานานแล้วล่ะค่ะว่าพี่แบคฮยอนน่ารักมาก
ไม่คิดว่าเจอตัวจริงแล้วจะน่ารักสมคำร่ำลือ ^__^”
ครูจินรีเอ่ยปากชม “คุณแบคฮยอนดูเป็นคนสามารถจัดการกับเด็กได้นะคะ
ทุกคนเชื่อฟังคุณหมดเลย”
“ไม่หรอกครับ ผมแค่เอาขนมมาล่อน่ะ
ฮ่าๆๆๆ” ผมเกาหัวแก้เก้อ ผมทำงานตรงนี้มาตั้งนานแต่ไอ่ชุนก็ไม่เคยชมซักครั้งเดียว
แล้วนี่พึ่งเจอกันวันแรกก็มาชมละ เขิล T / / T
“ฉันอยากเจอคุณมากๆ
เลยค่ะ แต่เห็นผ.อ.ปาร์คบอกว่าคุณจะมาหลังห้าโมงเย็น... ฉันก็... แหะๆ
ฉันรอไม่ไหวน่ะค่ะ เลยไม่ได้เจอกันซักที” ครูจินรียิ้มแห้งๆ เหมือนรู้สึกผิด
แต่ผมกลับรีบส่ายหน้าแมนๆ (หึหึ ไงล่ะ)
“ไม่หรอกครับ ผมเองก็ทำไม่ดี
ไม่เคยจะปลีกตัวมาได้เลย แล้วเด็กๆ ก็ต้องรอผมถึงห้าโมงเย็น”
“งั้นก็แปลว่าคุณเป็นคนมีอิทธิพลในวงการอนุบาลสองนะคะเนี่ย
ฮ่าๆๆ ขอตัวนะคะ เดี๋ยวเด็กๆ ซน” ครูจินรีหัวเราะร่าเริงก่อนจะเดินนำขึ้นไปบนรถบัส
ผมจึงพาเซฮุนไปนั่งในที่ที่ผมจะนั่ง เห็นโด้นั่งอยู่ที่เบาะฝั่งด้านข้างผมเรียบร้อยแล้ว...
ดีละ ถ้าจงอินโผล่หัวมามันจะได้หนีไม่ทัน T^T
“เฮ้ยยยยยย!!!!
จะออกรถแล้วเว้ยยยยย!!”
ไอ่ชุนยืนอยู่ที่ประตูรถก่อนจะตะโกนประกาศบอก... ใครซักคน...
ไม่ทันไรผมก็เห็นจงอินพร้อมกระเป๋าเป้วิ่งออกมาจากตึกเรียน
ใส่หมวกแก๊ปสีดำก็เพื่ออำพรางตัว แต่ดูเหมือนว่าคนบนรถที่นั่งอยู่ข้างหลังผมจะสังเกตเห็น... และจำได้...
“โด้ กูกราบ อย่าไป T^T” ผมเอาตัวเข้าไปขวางโด้ไม่ให้ลงจากรถ แต่โด้ก็ไม่ยอมแพ้
แม่งเอานิ้วมาหยิกตามตัวผมไปหมด TOT
แถมยังรุมทึ้งจิกหัวกูอย่างไม่ไยดี
“ไม่ต้องหนีหรอกครับพี่ ผมขึ้นรถเรียบร้อยแล้วครับ
^^” ขอบคุณคิมจงอินที่ขึ้นรถเร็วและประตูรถก็ถูกปิดทันที
ผมจึงรีบกลับไปนั่งกับเซฮุนและปล่อยให้โด้กับจงอินมันนั่งด้วยกันไป
จะโกรธกูก็โกรธเถอะ T__T ถ้ากูไม่ทำกูต้องโดนรายงานความประพฤติแน่
“แล้วกูนั่งไหน -0-?” ชุนที่ขึ้นมาเป็นคนสุดท้ายมองหน้าผมงงๆ เซฮุนจึงคลานขึ้นมานั่งที่ตักผมอย่างรู้งาน
“ให้ครูปาร์คกับพี่แบคฮยอนนั่งด้วยกัน
^O^” เซฮุนลูก หนูทำการสนับสนุนพี่แบคกับครูปาร์คได้ดีมากลูก หึหึ
“ดีแล้วฮุนฮุน
เหมือนพ่อแม่ลูกเลยเนอะๆ” ผมพูดก่อนจะเขย่าขาไปมา
ทำให้เด็กน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเหมือนกำลังเล่นอยู่บนเครื่องเล่นในสวนสนุก
“กูเป็นพ่อ” เชี่ยชุนคิดเองเออเอง
“เชี่ยไร กูต่างหากเป็นพ่อ =__=” ผมรีบแย้ง “ส่วนมึงอ่ะ เป็นแม่”
“โถ พูดออกมาได้เนอะ 555555555555
มึงดูส่วนสูงมึง มึงดูนิสัยมึง เป็นแม่ไป๊” มันหัวเราะร่า ส่วนเซฮุนก็ตบมือชอบใจที่ได้ยิน
“ใช่ๆ พี่แบคเป็นหม่าม๊า
ส่วนครูปาร์คเป็นปะป๊า”
กูเป็นหม่าม๊า
เชี่ยชุนเป็นปะป๊า...
นี่ถ้าไม่ใช่เซฮุนกูถีบตกรถละไอ่ฟรั๊ค
“ฮุนฮุนพูดดีมากครับ”
เชี่ยชุนก้มลงมาหอมแก้มเซฮุนอย่างอ่อนโยน แต่สายตามันมองมาที่ผมอย่างหื่นกาม!!
กูโดนแม่งเล่นอีกละๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“นี่คิดว่าใช้สายตาแบบนั้นแล้วจะถอดเสื้อผ้ากูได้หมดรึไง”
ผมพูดปาวๆ ไม่ได้รู้ตัวอะไรเล๊ยว่าหน้าแดงอยู่ -_-;
“จะถอดเสื้อผ้าก็ต้องใช้มือดิ”
พูดจบแม่งก็เอามือมาแถวกระดุมเสื้อผมทันที =[]=!! จนผมต้องรีบตีมือแม่งให้เลิกทำอะไรทุเรศๆ
ต่อหน้าเด็ก
“เอิ๊กๆๆๆๆ
พี่แบคกับครูปาร์คจะถอดเสื้อผ้ากันแย้ว” เซฮุนลูก...
พี่ว่าพี่น่าจะปล่อยให้หนูนั่งเป็นหมาหงอยอยู่ในหลืบห้องนั่นแหละดีแล้ว =___=
“นี่พี่สองคนจะจีบกันอีกนานมะ
บรรยากาศตรงนี้มาคุมากนะครับ” จงอินชะโงกหัวมาพูด
ผมมองหน้าโด้ที่อยู่ริมหน้าต่างด้วยแววตาอยากขอโทษ T^T ก็มันนั่งฟังเพลงโดยไม่สนใจห่าอะไรเลยอ่ะดิ
“ไม่ได้จีบเว่ยจงอิน!!” ผมรีบแย้ง
“เอ้า นี่มึงไม่ได้จีบกูละหรอ เออ
งั้นเรื่องที่เราจะแต่งงานกันก็...”
“โอเคๆๆๆๆๆ จีบไอ่สัส กูจีบๆๆๆ”
กูจะบ้าตายแล้วนะฮือออออ TT_____TT
**********
ผมนั่งหลับตาตลอดทาง
และยังจงใจจับมือเซฮุนไว้เพราะไม่อยากให้คนข้างตัวมาทำเนียนจับมือผม แต่ที่ไหนได้!
แม่งเอามือมาจับมือผมกับมือเซฮุนเหมือนพ่อแม่ลูกของแท้ TOT ใครสอนให้แม่งเป็นคนงี้วะ ทำไมทำกับเพื่อนแบบเน้
“เอาล่ะครับเด็กๆ
และคุณครูทุกท่าน พวกเราก็มาถึงชายหาดแฮอึนแดเรียบร้อยแล้ววววว~” เสียงไกด์ประกาศใส่ไมค์นั่นแหละที่ทำให้ผมยอมลืมตา
ความจริงก็ไม่ได้หลับอะไรหรอก แต่ถ้าลืมตาก็ต้องเผชิญหน้ากับมือไอ่ชุนอ่ะดิ
รถบัสค่อยๆ จอดเทียบฟุตบาทช้าๆ
ก่อนจะหยุดรถอย่างนิ่มนวล เด็กๆ พากันวิ่งกรูลงไปด้านล่างซึ่งมีคุณครูจินรีวิ่งลงไปรออยู่เรียบร้อยแล้ว
“เฮ้ยชุน ครูจินรีโสดปะวะ =..=
ถ้าโสดนี่กูจีบเลย ไม่แต่งงานกับมึงละ”
“เอ่ออออออออ... ไม่โสดหรอก
มีแฟนแล่ว!!”
มันชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะตอบแบบห้วนๆ รีบๆ
“เอ้าหรอ TOT
โถถถถถ ครูจินรีของผมมมม” ผมพร่ำเพ้อถึงครูที่อยู่ข้างล่าง
หล่อนใส่ชุดเดรสสีฟ้าเหมือนเด็กสาวแรกแย้ม ~O~ ผมมองไปที่โด้กับจงอิน...
นี่สองคนนี้จะมาคุกันอีกนานมะ
“กูถือเอง” โด้กำลังยื้อหยุดฉุดกระชากกระเป๋าตัวเองอยู่
เหมือนจงอินจะอยากถือให้น่ะครับ
“ผมจะถือให้!”
“นี่อย่าคิดว่าการช่วยถือของคือการเป็นคนดีนะ
มึงเป็นจงอินเหี้ยๆ ยังไงมึงก็เป็นอย่างนั้นแหละ”
โด้พูดก่อนจะคว้ากระเป๋าตัวเองกลับมาได้ ก่อนจะเดินฉับๆ ลงไปจากรถ
“สู้นะมึง” ชุนตบบ่าจงอินอย่างจริงใจ
“สมน้ำหน้านะมึง”
ส่วนผมก็แลบลิ้นใส่มันอย่างจริงใจ
ชุนแม่งไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องแบบนี้ไง
เห็นใครพยายามทำอะไรบางอย่างก็ช่วยเหลือสนับสนุน
แต่กู...
ผู้เห็นโด้ไม่มีความสุขมาตลอดห้าปีรู้สึกแย่กับไอ่เหี้ยนี่มาก
...
ห้าปีที่แล้ว
‘เฮ้ยโด้ มึงมาคนเดียวหรอเนี่ย O_O’ ชานยอลเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนสนิทตัวเองเดินเข้ามาในร้านอาหารคนเดียว
ก็วันนี้เป็นวันเกิดของคยองซู โดยงานเลี้ยงวันเกิดก็จะจัดที่ร้านนี้
และคยองซูก็บอกว่าจะมาพร้อมจงอิน...
แฟนมัน
แต่ไหนล่ะ... จงอิน?
‘อ่อ มันไม่ว่างน่ะ ฮะๆ ^^;’ เสียงพูดกับเสียงหัวเราะดูกระท่อนกระแท่นและไม่ได้รู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย
‘มันเหี้ยอย่างงี้เลิกกับแม่งเหอะโด้’ แบคฮยอนยุ
เขาเห็นจงอินปล่อยปละละเลยเพื่อนตัวเองมานานเกินไปแล้วและไม่อยากให้มันยืดเยื้อกว่านี้
‘มันไม่ได้เหี้ยนะ... มันไม่ว่างจริงๆ นี่นา ไม่เห็นต้องเลิกกับมันเลย’
‘ตอนจีบบอกว่ารักนักรักหนา
จะดูแลอย่างดี พอได้แล้วเป็นไง... แม่ง... ไม่โผล่หน้ามากี่วันละ แล้ววันๆ
มัวแต่ไปขลุกอยู่กับผู้หญิง ไม่ใช่เหี้ยแล้วอะไร? ควาย? ควายยังน่ารักกว่าอีก
ทำงานไถนา ส่วนไอ่ห่านี่ก็เป็นแค่กาฝากชีวิต’ แบคฮยอนพูดยาวอย่างอัดอั้นตันใจ
เขาเห็นเพื่อนต้องทนทรมานมาเดือนนึงแล้วกับการที่แฟนของเพื่อนไม่ได้เอาใจใส่เหมือนตอนจีบใหม่ๆ
‘บุ๊ค อย่าไปเสือกเรื่องคนอื่น’ และแบคฮยอนก็ถูกชานยอลดุ
‘มึงคิดให้ดีแล้วกันนะโด้ ถ้ากูเป็นมึงกูเลิกไปนานละ’ แบคฮยอนปลีกตัวเดินออกไปพร้อมๆ กับชานยอล
ทั้งสองคนหวังให้คยองซูได้นั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดคนเดียว
และในคืนนั้น คยองซูก็คิดได้เสียที
เขาเดินไปที่คอนโดของแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่เฝ้าตามจีบเขามาปีนึงจนเขายอมตัดสินใจเป็นแฟน
ตอนนี้เขาอยู่ปีสามและจงอินก็อยู่ปีสอง ทุกอย่างดูไปได้สวย...
แต่จงอินเหมือนจะไม่ได้รักเขาอีกแล้ว
เพราะขนาดวันเกิดของตัวเขาเอง
จงอินยังบอกว่า ‘มีรายงานต้องทำเยอะมาก คงไปไม่ได้จริงๆ’
กริ๊ก
ร่างเล็กไขกุญแจเข้าไปในห้อง
เพราะมีกุญแจสำรองที่จงอินปั๊มไว้ให้ ตั้งใจจะเดินเข้าไปเงียบๆ แล้วร้องเซอร์ไพร์ส
แต่ก็ต้องได้ยินเสียงร้องอื้ออ้าจากการเสพกามารมณ์อยู่ในห้องนอน...
‘อ๊ะจงอิน... อย่าสิคะ... อื๊อ... คิกๆ’
‘...’ แปลกตรงที่...
คยองซูเป็นพวกไม่ใช่คนขี้วีนและเสียงดังอะไร เขาชอบที่จะจัดการอะไรให้มันเด็ดขาดและเอาให้มันตายกันไปข้าง
เขาเลือกที่นั่งรอในห้องรับแขกและฟังเสียงอุบาทว์นั่นไปเรื่อยๆ
จนเพลิงรักสงบลง
‘เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่นะคะ’ เสียงผู้หญิงคนนั้นเดินออกมาจากห้องนอนและเดินผ่านหน้าเขาไปแบบงงๆ หล่อนคงสัมผัสได้ถึงรัศมีความโมโหจากตัวเขาแล้วล่ะมั้งถึงรีบผลุนผลันออกไป
ไม่นานนัก
ร่างสูงก็เดินตามออกมาด้วยการนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว
และก็ต้องสะดุ้งตกใจยิ่งกว่าเจอผีเมื่อเห็นแฟนรุ่นพี่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยแววตาที่ไม่ใช่ความขุ่นเคือง...
แต่เป็นความว่างเปล่า
‘พ... พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่’ ร่างสูงเลิ่กลั่กและร้อนรน
‘พี่พึ่งมาเมื่อกี้นี้เอง ^^’ ร่างเล็กยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินเข้ามาหา จงอินแอบถอนหายใจอยู่ลึกๆ
ก่อนจะพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
‘เออพี่โด้ แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะครับ’ เขายิ้มหวาน... ยิ้มเท่ๆ ที่ทำให้คยองซูตกหลุมรัก และก็เป็นยิ้มที่เขาอยากจะเอาไปฝังลงดินเสียเดี๋ยวนี้
‘ขอบคุณนะสำหรับของขวัญวันเกิด’
‘เอ๋
ผมยังไม่ได้ให้อะไรพี่เลยนะ?’
‘พี่ได้รับแล้วล่ะ...’
คยองซูเสียงต่ำลงและเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นใบหน้าเรียบเฉย ‘ของขวัญวันเกิดของจงอินที่มอบให้พี่คือ... จงอินไม่ได้รักพี่แล้ว’
‘พ... พี่’
‘จะเลิกกันก็บอกกันดีๆ
ไม่ต้องมาเอาคนอื่นบังหน้าแล้วโยนให้ว่า เพราะผู้หญิงอ่อยผมถึงได้มีอะไรด้วย...
แบบนั้นมันไม่ลูกผู้ชายเลยนะ’ น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่งเหมือนกระแสน้ำที่เงียบสงบ
‘...’
‘ผ้าขนหนูคงไม่เหมาะหรอก...
คราวหลังมึงไปเอาผ้าถุงมาใส่เหอะว่ะ’ คยองซูมองด้วยสายตารังเกียจและเปลี่ยนสรรพนามคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
‘พี่โด้... ผม...’
‘ผมทำรายงาน~’
คยองซูล้อเลียนคำพูดนั้นก่อนจะแค่นหัวเราะ ‘เฮอะ! รายงานเรื่องเพศศึกษาหรอครับคุณจงอิน’
‘ผมแค่ไม่เคยมีอะไรกับพี่เลย! ผมอดอยากปากแห้งมานานเท่าไหร่พี่รู้บ้างมั้ย
เราเคยมีอะไรกันครั้งนึงก็จริงแต่ผมก็กลั้นใจทำแทบตาย
กลัวพี่เจ็บแค่ไหนพี่ไม่รู้หรอก!
ผมทะนุถนอมพี่ยิ่งกว่าไข่ในหินแล้วเอาไประบายกับผู้หญิงพวกนั้นแทน พี่ไม่ดีใจเลยหรอ!!?’
คยองซูเหมือนโดนเอาไม้ฟาดเข้ากลางหน้า เขาไม่อาจจะต่อล้อต่อเถียงกับคนแบบนี้อีกแล้ว
คนที่คิดว่าตัวเองสุภาพบุรุษและทะนุถนอมเขา?
‘ไอ้สัส’ คยองซูปรี่เข้าไปประชิดตัว
ก่อนจะจ้องหน้าคนสูงกว่าอย่างเอาเรื่อง ‘คราวหลัง...
หึ... มึงจะเอาแรงๆ มึงก็บอกกู ไม่ต้องเอาคนอื่นมาอ้าง!’
‘...’
‘อ้อ... แต่คงไม่มีคราวหลังแล้วล่ะ
เพราะกูกับมึงจะไม่มีวันเจอกันอีกต่อไปแล้ว’ คยองซูขว้างกุญแจห้องของจงอินลงบนพื้นอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
จบกันซักที... จบแล้ว...
ขอให้จบจริงๆ
แต่ความรู้สึกเหี้ยๆ
ที่ฝังลึกมันก็ยังตราตรึงและฝังจำอยู่ในสมองของโดคยองซูมาห้าปี...
“พี่
ผมขอนอนห้องเดียวกับพี่นะ” จงอินยังเดินตามมาติดๆ
และพยายามอ้อนเขาอย่างกับปลิงเกาะติด
“...” ความเงียบคือคำตอบ
ถ้าจงอินจะเล่นมุก ‘ถ้าเงียบแปลว่าโอเค’ ตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก
เขาโตพอแล้วที่จะรู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด และคนตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน...
เขาต้องรู้จักกาลเทศะ
“ผมสัญญาว่าผมจะไม่แตะต้องพี่แม้แต่ปลายเล็บ”
ร่างสูงเข้าไปขวางขณะที่เดินเข้าไปในตัวค่ายเรียบร้อย คยองซูมองเด็กๆ
ที่กำลังยืนกันเต็มล็อบบี้ด้วยความรู้สึกแย่ อยากจะด่าจงอินว่า ‘ไอ้เหี้_’ ให้ลั่นโลก แต่เมื่อเห็นเด็กๆ ยืนมองอยู่ เขาก็จำเป็นจะต้องเป็นต้นแบบให้เด็กๆ
ต่อไป
“ไม่ได้ กูจะนอนกับแบคฮยอน”
“เดี๋ยวพี่ชานยอลก็ต้องนอนกับพี่แบคฮยอน”
ร่างสูงเหลือบมองคนสองคนที่ยืนจัดการธุระอยู่ที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“แบค!” คยองซูเดินไปหาแบคฮยอนที่กำลังยืนทะเลาะ (นิดๆ) กับชานยอล ก่อนจะพูดต่อ
“คืนนี้กูนอนกับมึงนะ”
“ห้ะ...” แบคฮยอนถึงกับอึ้ง
ถ้ากูนอนกับโด้ แล้วกูจะมาค่ายนี้ทำหอกอาร๊าย TOT กูมาเพื่อมานอนกับชานยอลนะฮือ
“ได้มั้ย...” แต่เพื่อนตรงหน้าส่งสายตาอ้อนวอนมาให้
แววตาเหมือนขยะแขยงคนที่ต้องนอนด้วยซะเหลือเกิน แบคฮยอนจึงกลั้นใจตอบไปอย่างยิ่งใหญ่!
“ได้!! กูจะนอนกับมึง!!”
**********
“เอาล่ะเด็กๆ >___< จับกลุ่มกันกลุ่มละห้าคนน้า” ครูจินรีประกาศกับเด็กๆ
ซึ่งแต่ละคนก็รีบจับกลุ่มกับเพื่อนตัวเอง ส่วนเซฮุนก็โชว์เมพด้วยการเดินมาหาครูปาร์คและพี่แบคฮยอน...
พวกมึงจะอยู่กันก็อยู่ไป
กูอยู่กับสองคนนี้ กูเหนือกว่าเฟร่ย! (อันนี้ไม่ใช่ความคิดของน้องฮุนฮุนนะคะ กูใส่ไข่เข้าไปค่ะ 5555555555555)
“โอเคน้า เด็กๆ
แต่ละคนต้องก่อปราสาททราย ของกลุ่มใครสูงที่สุด กลุ่มนั้นจะได้รางวัลไปครองจ้ะ
แต่มีข้อแม้นะว่าถ้าสะกิดแล้วฐานล้มก็จะแพ้ทันที เข้าใจครูมั้ยคะ?”
“เข้าใจครับ / ค่ะ”
“ดีมาก งั้นลุยเลยจ้ะ
เดี๋ยวครูกับพี่จงอิน พี่คยองซูจะเข้าไปช่วยในแต่ละกลุ่มน้า”
ครูจินรียิ้มร่าก่อนจะหันมาบอกให้พี่ผู้ชายสองคนแยกกลุ่มกัน
จงอินรีบเดินไปหากลุ่มเด็กผู้ชาย ส่วนคยองซูก็ต้องเป่ายิ้งฉุบกับครูจินรี
“ครูปาร์คกับพี่แบคฮยอนจะก่อปราสาททรายแบบไหนหรอครับ?”
เซฮุนเงยหน้าถาม มือสองข้างของเขาถูกจูงโดยพี่แบคฮยอนและครูปาร์คคนละข้าง
ทั้งสามคนเดินไปหาที่ทรายแข็งพอเหมาะ ก่อนจะนั่งลง
“สร้างเรือนหอน่ะฮุนฮุน 55555555”
ครูปาร์คพูดก่อนจะขำซะเอง
“เรือนหอห่าไร๊ ฮุนฮุนอย่าไปฟังครับ...
จะเป็นปราสาทที่เราอยู่ด้วยกันสามคนไง”
“ก็เรือนหอปะล่ะแหม”
ครูปาร์คยังคงเถียงคอเป็นเอ็น เขาเริ่มขุดทรายให้เป็นวงกว้าง
น้ำเริ่มเอ่อและขังอยู่ในหลุม “นี่เป็นสระน้ำใต้ปราสาทบ้านพวกเรา”
“ทำอย่างนั้นปราสาทมึงก็พังก่อนอ่ะครับเพื่อน”
แบคฮยอนนั่งมองเซ็งๆ ไอ่ห่านี่ไม่ได้จบวิศวะมาจะไปรู้เชี่ยไร๊
เดี๋ยวนะ...
ผู้ใหญ่ทั้งห้าคนในนี้ไม่มีใครจบวิศวะเลยนี่หว่า =____=
จ้ะ พังกันให้หมด
“ดูนี่นะฮุนฮุน”
ครูปาร์คไม่สนใจไอ่ตัวขวางโลกข้างๆ เขาเอาทรายแข็งๆ
รอบตัวมาปั้นเป็นสะพานโค้งอยู่เหนือแอ่งน้ำนั้น “แล้วเราก็ต้องรอให้ทรายแข็งก่อน
เดี๋ยวจะก่อปราสาทไม่ได้”
“อู้หูววววววว O[]O” เซฮุนตื่นตาตื่นใจกับสะพานโค้ง เขาช่วยให้ทรายแข็งขึ้นด้วยการเอาปากเป่า
และครูปาร์คก็คิดอะไรเด็ดๆ
บางอย่างออก *กระตุกยิ้มมุมปาก*
“เฮ้ยบุ๊ค มึงช่วยกูขุดแอ่งน้ำต่อดิ๊”
ชานยอลสั่งเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
คนที่นั่งเท้าคางเหมือนไม่มีอะไรทำจึงเอามือซ้ายเข้าไปขุดๆ ล้วงๆ
ในแอ่งน้ำนั้นแก้เซ็ง แต่พลันมือเรียวยาวก็ต้องชะงักเมื่อ...
โดนจับมือในแอ่งน้ำแบบลับๆ
“เชี่ย ปล่อย
ไม่งั้นกูสะบัดมือให้สะพานมึงแหกแน่” แบคฮยอนขู่ แต่มือหนานั้นก็ยังไม่ปล่อย
“มึงลองสะบัดดิ ฮุนฮุนร้องไห้แน่”
ครูปาร์คขู่กลับ แบคฮยอนจึงเหลือบมองไปที่เด็กน้อย...
โถถถถถถถถถ
กำลังนั่งเป่าทรายให้แข็งไวๆ โดยไม่ได้รับรู้ความเหี้ยของผู้ใหญ่สองคนเล้ยยยย TTOTT
“โห
นี่มึงจีบกูอยู่ปะ กากง่ะกากๆๆ” แบคฮยอนได้ทีรีบทับถม
ใบหน้าขึ้นสีระเรื่ออย่างช่วยไม่ได้
เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยโดนใครประกาศว่าจะจีบมาก่อนเลยนะ TT / / / TT
“แล้วนี่มึงจีบกูอยู่ปะ
กากพอๆ กับกูนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆ” ชานยอลตอบกลับก่อนจะหัวเราะสะใจ...
แต่มือยังไม่ปล่อยนะบอกเลย
“ทั้งสองคนจะจับมือกันอีกนานมั้ยครับเนี่ย
ฮุนฮุนเห็นตั้งนานละนะ -0-” เซฮุนหยุดเป่าทรายก่อนจะมองหน้าผู้ใหญ่สองคนสลับกันงงๆ
ก็ดูสิ... เขาอุตส่าห์ทำเป็นไม่เห็นแล้วนะ แต่ทั้งสองคนก็ยังจับมือกันอยู่ได้
“ฮุนฮุนอยากได้หม่าม๊ากับปะป๊ามั้ยครับ”
ชานยอลเปลี่ยนเรื่องโดยการหันไปถามเด็กน้อย
“อยากครับ อยากมากๆ >_<
และถ้าสองคนนั้นเป็นครูปาร์คกับพี่แบคฮยอน ฮุนฮุนจะดีใจมากเยย”
“กวนตีนละไอ้ชุน
มึงอย่าเอาน้องมายุ่งเด้!” แบคฮยอนร้อนรน...
เพราะกูไม่อยากเป็นหม่าม๊า TOT!!!
“แล้วฮุนฮุนอยากให้ใครเป็นปะป๊า
ใครเป็นหม่าม๊าล่ะหื้ม?” ครูปาร์คถามขันๆ
รู้อยู่แล้วว่าคำตอบของเด็กน้อยจะเป็นอย่างไร
“ให้ครูปาร์คเป็นปะป๊า
ให้พี่แบคฮยอนเป็นมะม๊าครับ >__<!!”
“ได้ยินยังครับม๊าบุ๊ค”
ป๊าชุนยักคิ้วให้อย่างกวนตีน ก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามเสร็จสรรพ
แบคฮยอนเซ็งจนแทบจะระเบิดออกมา แต่เมื่อหันไปสบตากับเซฮุนที่มองหน้าเขาอย่างมีความหวังแบบนั้นก็...
“ได้ยินแล้วครับ ไอ่ห่าป๊าชุน
ฟรั๊คยูแดมน์ (Fruck You Damn)”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น